• Welcome to รอบรั้วมหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง.
 

ปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ มีกี่แบบ

เริ่มโดย ruataewada, ต.ค 02, 2023, 09:16 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

ruataewada

**พันธุ์ปลาที่เหมาะเลี้ยง**

การเลี้ยงปลาเป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยมของคนทุกเพศทุกวัย เนื่องจากเป็นกิจกรรมที่ให้ความเพลิดเพลิน ผ่อนคลาย และยังสามารถเป็นแหล่งอาหารที่ดีอีกด้วย การเลือกพันธุ์ปลาที่เหมาะเลี้ยงนั้น จะต้องคำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้

* **วัตถุประสงค์ในการเลี้ยง** ว่าต้องการเลี้ยงปลาเพื่อความสวยงาม เพื่อการบริโภค หรือเพื่อการศึกษา
* **ขนาดของสระเลี้ยง** หากเลี้ยงในสระขนาดใหญ่ ก็สามารถเลี้ยงปลาที่มีขนาดใหญ่ได้ หากเลี้ยงในสระขนาดเล็ก ควรเลี้ยงปลาที่มีขนาดเล็ก
* **อุณหภูมิของน้ำ** ปลาแต่ละสายพันธุ์จะทนต่ออุณหภูมิของน้ำที่แตกต่างกัน
* **ปริมาณออกซิเจนในน้ำ** ปลาแต่ละสายพันธุ์ต้องการปริมาณออกซิเจนในน้ำที่แตกต่างกัน
* **ความเค็มของน้ำ** ปลาแต่ละสายพันธุ์ต้องการความเค็มของน้ำที่แตกต่างกัน
* **พฤติกรรมของปลา** ปลาแต่ละสายพันธุ์มีพฤติกรรมที่แตกต่างกัน เช่น ปลาบางชนิดชอบอยู่รวมกันเป็นฝูง ปลาบางชนิดชอบอยู่ตามลำพัง

**พันธุ์ปลาที่นิยมเลี้ยง**

พันธุ์ปลาที่นิยมเลี้ยงในประเทศไทยมีมากมาย ดังนี้

* **ปลาสวยงาม** เช่น ปลาทอง ปลาหางนกยูง ปลาสอด ปลาหมอสี ปลากัด เป็นต้น
* **ปลาเศรษฐกิจ** เช่น ปลานิล ปลาดุก ปลาตะเพียน ปลาช่อน เป็นต้น
* **ปลาอื่น ๆ** เช่น ปลากะพง ปลาเก๋า ปลาหมอทะเล เป็นต้น

**ตัวอย่างพันธุ์ปลาที่เหมาะเลี้ยง**

* **ปลาทอง** เป็นปลาที่เลี้ยงง่าย ทนต่อสภาพอากาศได้ดี เหมาะสำหรับการเลี้ยงในสระขนาดเล็ก
* **ปลาหางนกยูง** เป็นปลาที่เลี้ยงง่าย ทนต่อสภาพอากาศได้ดี เหมาะสำหรับการเลี้ยงในสระขนาดเล็ก
* **ปลาสอด** เป็นปลาที่เลี้ยงง่าย ทนต่อสภาพอากาศได้ดี เหมาะสำหรับการเลี้ยงในสระขนาดเล็ก
* **ปลาหมอสี** เป็นปลาที่เลี้ยงง่าย ทนต่อสภาพอากาศได้ดี เหมาะสำหรับการเลี้ยงในสระขนาดใหญ่
* **ปลากัด** เป็นปลาที่เลี้ยงง่าย ทนต่อสภาพอากาศได้ดี เหมาะสำหรับการเลี้ยงในภาชนะขนาดเล็ก

**ข้อควรระวังในการเลี้ยงปลา**

* ควรหมั่นทำความสะอาดสระเลี้ยงปลาอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการสะสมของสิ่งสกปรกที่อาจทำให้เกิดโรคในปลา
* ควรให้อาหารปลาในปริมาณที่เหมาะสม ไม่มากหรือน้อยเกินไป
* ควรสังเกตพฤติกรรมของปลา หากพบปลาที่มีอาการผิดปกติ ควรรีบแยกเลี้ยงและรักษา

การเลือกพันธุ์ปลาที่เหมาะเลี้ยงนั้น มีความสำคัญต่อความสำเร็จในการเลี้ยงปลา หากเลือกพันธุ์ปลาที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่และวัตถุประสงค์ในการเลี้ยง จะช่วยให้ปลาเจริญเติบโตได้ดีและลดความเสี่ยงในการเกิดโรค

โปรโมชั่นสำหรับคุณ ลวดหนาม รั้วลวดหนาม รั้วตะแกรงเหล็ก


ruataewada

ปลูกผักหลังบ้าน

การปลูกผักหลังบ้านเป็นกิจกรรมที่สามารถทำได้ทุกคน ไม่ว่าจะมีพื้นที่มากหรือน้อยก็สามารถปลูกผักได้ การปลูกผักหลังบ้านเป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพกายและใจ อีกทั้งยังช่วยให้เราประหยัดค่าใช้จ่ายอีกด้วย

ประโยชน์ของการปลูกผักหลังบ้าน

การปลูกผักหลังบ้านมีประโยชน์มากมาย ดังนี้

เป็นแหล่งวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย ผักสดอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย เช่น วิตามินซี วิตามินเอ แคลเซียม เหล็ก เป็นต้น วิตามินและแร่ธาตุเหล่านี้มีส่วนช่วยในการบำรุงร่างกาย เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และป้องกันโรคต่างๆ
ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเรื้อรัง ผักมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันเซลล์ไม่ให้ถูกทำลายจากอนุมูลอิสระ อนุมูลอิสระเป็นสาเหตุของการเกิดโรคเรื้อรังต่างๆ เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคเบาหวาน เป็นต้น
ช่วยลดน้ำหนัก ผักมีกากใยสูง ช่วยทำให้รู้สึกอิ่มเร็ว จึงช่วยลดปริมาณอาหารและแคลอรีที่รับประทานเข้าไป ส่งผลให้น้ำหนักลดลง
เป็นกิจกรรมที่ผ่อนคลายและสร้างความสุข การปลูกผักเป็นกิจกรรมที่ช่วยให้จิตใจสงบ ผ่อนคลาย และสร้างความสุขให้กับตนเองและครอบครัว
ขั้นตอนการปลูกผักหลังบ้าน

การปลูกผักหลังบ้านสามารถทำได้ง่าย ๆ ดังนี้

เลือกพื้นที่ที่เหมาะสม พื้นที่สำหรับปลูกผักควรเป็นพื้นที่ที่มีแสงแดดส่องถึงอย่างน้อย 6 ชั่วโมงต่อวัน
เตรียมดิน ดินสำหรับปลูกผักควรเป็นดินร่วนซุย มีอินทรียวัตถุสูง
เลือกพันธุ์ผักที่เหมาะสม เลือกพันธุ์ผักที่เหมาะกับสภาพอากาศและพื้นที่ปลูก
หว่านหรือปลูกเมล็ด หว่านหรือปลูกเมล็ดผักตามคำแนะนำของฉลากบรรจุภัณฑ์
รดน้ำและดูแลอย่างสม่ำเสมอ รดน้ำให้ผักชุ่มชื้นอยู่เสมอ และดูแลกำจัดวัชพืช
ผักที่ปลูกง่าย

ผักที่ปลูกง่าย ได้แก่ ผักสวนครัวทั่วไป เช่น ผักคะน้า ผักบุ้ง ผักกาดหอม ผักชี ต้นหอม มะเขือเทศ แตงกวา เป็นต้น ผักเหล่านี้ปลูกง่าย ดูแลไม่ยาก และสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ภายใน 1-2 เดือน

เคล็ดลับในการทำสวนปลูกผัก

ควรเลือกผักที่เหมาะกับสภาพอากาศและพื้นที่ปลูก เพื่อให้ผักเจริญเติบโตได้ดี
ควรเตรียมดินให้พร้อมก่อนปลูกผัก โดยใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักลงไปในดินเพื่อเพิ่มอินทรียวัตถุ
ควรรดน้ำผักอย่างสม่ำเสมอ แต่ไม่ควรรดน้ำมากเกินไป เพราะจะทำให้รากผักเน่า
ควรกำจัดวัชพืชอย่างสม่ำเสมอ เพราะวัชพืชแย่งสารอาหารและน้ำจากผัก
ควรหมั่นสังเกตผัก หากพบโรคและแมลงควรรีบกำจัดให้ทันเวลา
การทำสวนปลูกผักหลังบ้านเป็นกิจกรรมที่สามารถทำได้ทุกคน ไม่ว่าจะมีพื้นที่มากหรือน้อยก็สามารถปลูกผักได้ การปลูกผักหลังบ้านเป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพกายและใจ อีกทั้งยังช่วยให้เราประหยัดค่าใช้จ่ายอีกด้วย
โปรโมชั่นสำหรับคุณ ตะแกรงเหล็ก
ลวดหนาม
รั้วลวดหนาม
รั้วตาข่าย
ลวดหนามกันสนิม

ruataewada

ลวดหนาม มีกี่ประเภท

ลวดหนามมี 2 แบบ
ลวดหนาม ที่เราพอจะนึกออกและเคยเห็น มีอยู่ 2 ประเภทที่เห็นได้ชัดๆ คือ

ลวดหนามล้อมบ้านทั่วไป
ลวดหนามหีบเพลง
1. ลวดหนามล้อมบ้านทั่วไป
ลวดหนามประเภทนี้ก็คือลวดหนามล้อมที่ดิน ล้อมบ้าน ล้อมส้วน ล้อมที่ดินทั่วไปของเรานั่นเอง โดยมากจะแบ่ง ตามลักษณะของปมหนาม หรือ รูปแบบวิธี หรือ คุณภาพการพันนั่นเอง

  1.1 ลักษณะของหนามปมลวดหนาม
ลวดหนามในปัจจุบัน มีรูปแบบการพันปมหนามอยู่ 2 แบบ คือ

1.1.1 การพันเกลียวหนามแบบธรรมดา (Conventional)
เป็นการพันเกลียวลวดหนามแบบเก่า มีโอกาสที่หนามจะหลุด หรือเกลียวหนามอาจคลายได้ในส่วนของตัวเส้นลวดจะมีการพันเกลียวแบบหลวมๆ ไม่แน่น มีโอกาสที่ติดตั้งแล้วจะทำให้ลวดหนามหย่อนในอนาคต ตัวอย่างมีให้เห็นตามทั่วไป (ตามรูปด้านล่าง)
ลวดหนามทั่วไป

ลวดหนามประเภทนี้เราผมเห็นกันได้มากตามพื้นที่ทั่วไป เส้นลวดมักมีขนาดใหญ่ เมื่อเทียบกับลวดหนามประเภทอื่น แต่ค่อนข้างหาซื้อได้ง่าย ซึ่งมีข้อดีคือเป็นลวดหนามที่ราคาถูก มักขายเป็น ชั่งกิโลขาย ข้อเสียหนึ่ง คือเมื่อเป็นการชั่งกิโลขาย 5 กิโลบ้าง 10 กิโลบ้างจะ
 ทำให้ความยาวลวดแต่ละม้วน จะไม่เท่ากันเป็นเหตุผลให้การทำงานยากมากขึ้น เนื่องจากการที่ต้องทำการต่อลวดหลายรอบ

อีกหนึ่งปัญหาที่พบเจอกับการล้อมรั้วลวดหนามคือ ขึ้นสนิมง่าย เพราะลวดหนามทั่วไป จะเป็นการชุบแบบไฟฟ้า (Electroplating) ซึ่งการชุบซิงค์แบบนี้ปริมาณซิงค์ที่ชุบค่อนข้างที่บางมาก ๆ ทำให้อายุการใช้งานของลวดหนามทั่วไปเกิดสนิมเร็ว ประมาณ 6 เดือน – 1 ปี
เริ่มขึ้นสนิมแล้ว หรือจะเป็นปัญหาล้อมรั้วลวดหนามทั่วไปจะขาดง่าย  ขึงไม่ตึง หย่อน  รวมถึงตัวเกลียวหนาม ที่ถักมาไม่แน่นทำให้เป็นสาเหตุของลวดหนามไม่ตึง และหย่อนง่าย ซึ่งถ้าสังเกตการล้อมรั้วลวดหนามทั่วไปที่ติดตั้งตามท้องตลาด ติดตั้งไปได้ 1-2 เดือน รั้วลวดหนามทั่วไปจะเริ่มหย่อนเป็นท้องช้าง ไม่สวยงาม
หรือเห็นรั้วลวดหนามขาดเป็นบางช่วง  ทำให้เปลืองงบประมาณในการซื้อลวดหนามมาติดตั้งใหม่ เสียทั้งเวลา เสียทั้งค่าแรง

ตะแกรงเหล็ก
ลวดหนาม
รั้วลวดหนาม
รั้วตาข่าย
ลวดหนามกันสนิม

ruataewada

ดูแลรักษาท่อน้ำ อย่างไรให้สะอาด ปลอดภัย ใช้งานได้ยาวนาน



ท่อน้ำเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวันของเรา ทำหน้าที่ลำเลียงน้ำสะอาดมาให้เราใช้ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการชำระล้างร่างกาย ประกอบอาหาร หรือใช้ในการอุปโภคบริโภคอื่นๆ ดังนั้นการดูแลรักษาท่อน้ำให้สะอาด ปลอดภัย และใช้งานได้ยาวนานจึงเป็นเรื่องสำคัญ

วิธีดูแลรักษาท่อน้ำ

ทำความสะอาดท่อน้ำอย่างสม่ำเสมอ
การทำความสะอาดท่อน้ำอย่างสม่ำเสมอจะช่วยกำจัดสิ่งสกปรก ไขมัน และตะกรันต่างๆ ที่อาจสะสมอยู่ในท่อน้ำ ซึ่งอาจก่อให้เกิดปัญหาต่างๆ เช่น ท่อน้ำตัน น้ำไหลช้า หรือน้ำมีกลิ่นไม่พึงประสงค์

การทำความสะอาดท่อน้ำสามารถทำได้ด้วยตนเองหรือจ้างช่างประปามาดำเนินการ โดยหากทำความสะอาดด้วยตนเองสามารถทำได้ดังนี้

ปิดวาล์วน้ำที่ปลายท่อ
ถอดอุปกรณ์ต่างๆ ออกจากท่อ
ใช้น้ำยาล้างท่อหรือน้ำยาอื่นๆ ที่เหมาะสมฉีดล้างภายในท่อ
ใช้แปรงขัดทำความสะอาดบริเวณที่สกปรก
ล้างน้ำสะอาดอีกครั้ง
ประกอบอุปกรณ์ต่างๆ กลับเข้าที่
ตรวจสอบท่อน้ำเป็นประจำ
ควรตรวจสอบท่อน้ำเป็นประจำ หากพบรอยรั่วหรือรอยแตกร้าวให้รีบซ่อมแซมโดยเร็ว เพราะหากปล่อยให้รั่วนานอาจทำให้ท่อน้ำแตกเสียหายและอาจก่อให้เกิดปัญหาอื่นๆ ตามมา

เลือกใช้ท่อน้ำคุณภาพดี
การเลือกท่อน้ำคุณภาพดีจะช่วยให้ท่อน้ำมีอายุการใช้งานยาวนานและลดปัญหาต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้

ข้อควรระวังในการทำความสะอาดท่อน้ำ

ควรสวมใส่อุปกรณ์ป้องกัน เช่น ถุงมือ แว่นตา และหน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันอันตรายจากการสัมผัสกับสารเคมีหรือสิ่งสกปรกต่างๆ
ไม่ควรใช้สารเคมีที่มีฤทธิ์รุนแรงในการทำความสะอาดท่อน้ำ เพราะอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม
หากพบปัญหาท่อน้ำตันหรือท่อน้ำรั่ว ควรปรึกษาช่างประปาที่มีความชำนาญ
ประโยชน์ของการดูแลรักษาท่อน้ำ

ช่วยให้ท่อน้ำสะอาด ปลอดภัย และใช้งานได้ยาวนาน
ช่วยลดปัญหาต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นกับท่อน้ำ เช่น ท่อน้ำตัน น้ำไหลช้า หรือน้ำมีกลิ่นไม่พึงประสงค์
ช่วยให้น้ำประปาสะอาดและปลอดภัยต่อสุขภาพ
การดูแลรักษาท่อน้ำเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะจะช่วยให้ท่อน้ำสะอาด ปลอดภัย และใช้งานได้ยาวนาน ช่วยลดปัญหาต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นกับท่อน้ำ ช่วยให้น้ำประปาสะอาดและปลอดภัยต่อสุขภาพ

โปรโมชั่นสำหรับคุณ ลวดหนาม รั้วลวดหนาม รั้วตะแกรงเหล็ก

ruataewada

เกษตรกรต้องเช็ค! การเปลี่ยน ส.ป.ก. เป็นโฉนดที่ดิน 2567 กลุ่มไหนได้รับสิทธิ์บ้าง

เกษตรกรที่ได้รับสิทธิถือครอง ส.ป.ก.4-01 จำนวน 1,628,520 ราย ต้องรู้! เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2566 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะประกาศในราชกิจจานุเบกษา อนุญาตให้เปลี่ยนเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 4-01 ทั่วประเทศ 22 ล้านไร่ เป็นฉโนดที่ดินฯ ภายในระยะเวลา 2 ปี หากยังไม่ทราบถึงข้อกำหนด วันนี้ เราจะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับที่ดิน ส.ป.ก. และเงื่อนไขการเปลี่ยนเป็นฉโนดกันในบทความนี้ครับ...

ที่ดิน ส.ป.ก. คืออะไร?
ส.ป.ก. ย่อมาจาก "สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม" หมายถึง  ที่ดินของสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมให้ที่ดินแก่เกษตรกรที่ไม่มีที่ดินทำกินเข้ามาทำประโยชน์ โดยทำการเกษตรในที่ดินนั้นๆ

ที่ดิน ส.ป.ก. หรือ ที่ดิน ส.ป.ก. 4-01 คือ เอกสารแสดงการครอบครองที่ดินที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ออกให้กับประชาชนเข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน ตามพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2518 โดยมีหลักว่า ที่ดินในเขตปฏิรูปนั้นใช้ทำเกษตรกรรมได้อย่างเดียวเท่านั้น ทำประโยชน์อย่างอื่นไม่ได้ และผู้ครอบครองทำประโยชน์ในที่ดิน ส.ป.ก. 4-01 จะต้องมีฐานะยากจน

ที่ดิน ส.ป.ก. ซื้อขายได้หรือไม่?
ตามพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2518 ตามมาตรา 39 ระบุว่า ที่ดินที่บุคคลได้รับสิทธิโดยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมจะทำการแบ่งแยก หรือโอนสิทธิในที่ดินนั้นไปยังผู้อื่นมิได้ เว้นแต่เป็นการตกทอดทางมรดกแก่ทายาทโดยธรรม หรือโอนไปยังสถาบันเกษตรกร หรือ ส.ป.ก. เพื่อประโยชน์ในการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง หากมีการซื้อขายเปลี่ยนมือที่ดิน ส.ป.ก. กฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมได้กำหนดมาตรการหรือโทษตามกฎหมาย โดยผู้ขายต้องเสียสิทธิทำกินในที่ดินที่ได้รับอนุญาต ในขณะที่ผู้ซื้อก็ไม่อาจอ้างการซื้อขายเข้าครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดิน ส.ป.ก.ได้ นอกจากนั้นผู้ซื้อและผู้ขายอาจต้องรับโทษอาญาถึงจำคุกด้วย แต่หากมีการเปลี่ยน ส.ป.ก เป็นฉโนดที่ดินแล้วก็จะสามารถทำได้โดยมีเงื่อนไขเพิ่มเติม

การเปลี่ยน ส.ป.ก. เป็นโฉนดที่ดินคืออะไร?
เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2566 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะประกาศในราชกิจจานุเบกษา อนุญาตให้เปลี่ยนเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 4-01 ทั่วประเทศ 22 ล้านไร่ จำนวน 1,628,520 ราย โดยมีผู้มีสิทธิยื่นคำขอเปลี่ยนโฉนดเอกสารสิทธิรวม 2,205,561 ฉบับ โดยผู้มีสิทธิ์ได้รับการเปลี่ยน ส.ป.ก เป็นฉโนดที่ดิน โดยการเปลี่ยนสำนักงานที่ดินแห่งชาติ (ส.ป.ก.) เป็นโฉนดที่ดินเกิดขึ้นตามมติหรือมาตรการของคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (คปก.) ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับสิทธิในที่ดินของเกษตรกรจากเอกสารสิทธิ์ที่ดิน 4-01 (ส.ป.ก.4-01) ขึ้นเป็นโฉนดที่ดิน โดยมีวิธีและเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในกระบวนการนั้น ๆ ตามกฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม โดยเกษตรกรที่ถือเอกสารสิทธิ์ สปก. อยู่แล้ว และยังใช้ประโยชน์ในพื้นที่นั้น ต่อเนื่องมา 10 ปีขึ้นไป จะได้รับการเปลี่ยนเป็นโฉนดที่ดิน ภายในระยะเวลา 2 ปี โดยได้รับสิทธิ์ตามเอกสารสิทธิ์ที่ตนถืออยู่ แต่จะยังไม่ซื้อขายที่ดินดังกล่าวได้ในระยะเวลา 5 ปีจากวันที่ได้รับโฉนด

เกษตรกรกลุ่มใดได้รับสิทธิ์การเปลี่ยน ส.ป.ก เป็นฉโนดที่ดิน?
ผู้มีสิทธิได้รับการจัดการที่ดิน ส.ป.ก มี 3 ประเภท

เกษตรกร
เป็นผู้ประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลักอยู่แล้ว โดยใช้เวลาส่วนใหญ่ในรอบปี เพื่อประกอบเกษตรกรรมแห่งท้องถิ่นนั้น

ประสงค์จะประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลัก
– ผู้ยากจน มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาท/คน/ปี
– จบการศึกษาทางเกษตรกรรม ไม่ต่ำกว่าระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพหรือเทียบเท่า
– เป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของผู้ประกอบอาชีพเกษตรกรรม

สถาบันเกษตรกร
– กลุ่มเกษตรกร
– สหกรณ์การเกษตร
– ชุมชนสหกรณ์การเกษตรตามกฎหมายว่าด้วยสหกรณ์

คุณสมบัติผู้ได้รับการจัดที่ดินซึ่งเป็นเกษตรกรที่ถือครอง ส.ป.ก.4-01 จะต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้
มีสัญชาติไทย
บรรลุนิติภาวะ หรือเป็นหัวหน้าครอบครัว
ประพฤติดี ซื่อสัตย์สุจริต
ร่างกายสมบูรณ์ ขยันขันแข็ง
ไม่มีที่ดินหรือมีที่ดินเพียงเล็กน้อย ไม่เพียงพอ
ไม่เป็นคนวิกลจริต หรือจิตฟั่นเฟือน
ยินยอมปฏิบัติตามระเบียบของ ส.ป.ก.
หลังจากการเปลี่ยน ส.ป.ก เป็นฉโนดที่ดินสามารถซื้อขายได้หรืไม่?
การเปลี่ยนเป็นโฉนดที่ดิน จะยังไม่สามารถซื้อขายที่ดินดังกล่าวได้ในระยะเวลา 5 ปีจากวันที่ได้รับโฉนด

กรณีที่มีความจำเป็นในการกู้ยืม (การจำนอง) หรือจำเป็นจะต้องขายที่ดินที่ได้รับโฉนดนั้นก่อนเวลา 5 ปี ให้ดำเนินการผ่านธนาคารที่ดิน (ที่จะจัดตั้งขึ้น) โดยธนาคารที่ดินจะคิดราคาที่ดินตามราคาประเมินของที่ดินที่มีโฉนด เกษตรกรที่ยังไม่ได้เป็นผู้ถือเอกสารสิทธิ์ในที่ดิน ส.ป.ก. (หรือเป็น ผู้ซื้อ/เปลี่ยนมือที่ดิน ส.ป.ก.) เกษตรกรจะได้รับการเปลี่ยนเป็นโฉนดที่ดิน หาก (ก) เกษตรกรมีการใช้ประโยชน์ที่ดินในการทำการเกษตรต่อเนื่องมา 10 ปีขึ้นไป และ (ข) มีเอกสารหรือพยานการทำข้อตกลง/การยินยอมจากผู้ที่มีชื่อในเอกสารสิทธิ์ ส.ป.ก. รวมถึง (ค) เกษตรกรผู้นั้นจะต้องเป็นผู้ที่มีทรัพย์สินไม่เกิน 10 ล้านบาท เกษตรกรดังกล่าวจะสามารถเปลี่ยน ส.ป.ก. เป็นโฉนดได้ไม่เกิน 50 ไร่

วิธีการเปลี่ยน ส.ป.ก เป็นฉโนดที่ดิน ปี 2567
เพื่อเปลี่ยนสิทธิ์ที่ดินจากสำนักงานที่ดินแห่งชาติ (ส.ป.ก.) เป็นโฉนดที่ดินในปี 2566 ตามมติของคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (คปก.) หากมีคุณสมบัติตรงตามที่กำหนด สามารถยื่นคำร้องเพื่อขอรับการจัดที่ดิน ณ สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) จังหวัด โดยให้จัดเตรียมเอกสารและหลักฐาน ได้แก่ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน, สำเนาทะเบียนบ้าน และหลักฐานการมีที่ดิน (ถ้ามี) เพื่อให้ ส.ป.ก. จังหวัด ตรวจสอบคุณสมบัติและดำเนินการจัดหาที่ดิน และจัดที่ดิน ส.ป.ก. ต่อไป หรือหากต้องการทำผ่านทางออนไลน์ท่านสามารถทำได้ตามขั้นตอน ดังนี้

ดาวน์โหลดแอป "SmartLands" หรือเข้าไปที่เว็บไซต์ dol.go.th บนโทรศัพท์ที่มีอินเตอร์เน็ตและเปิดสัญญาณ GPS โดยจำต้องดำเนินการบริเวณที่ดินของผู้ต้องการเปลี่ยน ส.ป.ก
เลือกเมนู "บอกดิน" และกดปุ่ม "แจ้งตำแหน่งที่ดิน"
รอให้ระบบแสดงค่าพิกัดตำแหน่งที่ดินของท่าน
กรอกข้อมูลเจ้าของที่ดิน เช่น ชื่อ, ที่อยู่, หมายเลขโทรศัพท์ ตามที่ระบบกำลังแสดง
เลือกหลักฐานที่ดินที่มีอยู่กับท่าน เช่น ส.ป.ก., น.ส.3, น.ส.3 ก
หากไม่มีหลักฐานใดๆ ให้เลือก "อื่นๆ" และกดปุ่ม "ส่ง"
รอระบบตรวจสอบและดำเนินการประมวลผล หลังจากนั้นรอรับการแจ้งกลับจากระบบหรือจากกรมที่ดินผ่านทางเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน "SmartLands"
สามารถติดตามสถานะการดำเนินการผ่านทางแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ได้
สรุป
การเปลี่ยน ส.ป.ก. เป็นโฉนดที่ดินเกิดขึ้นตามมติหรือมาตรการของคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (คปก.) เพื่อยกระดับสิทธิในที่ดินของเกษตรกรจากเอกสารสิทธิ์ที่ดิน 4-01 (ส.ป.ก.4-01) เป็นโฉนดที่ดิน ตามกฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม โดยมีเงื่อนไขหลายประการ เช่น การปรับปรุงกฎหมายและกระบวนการในวันที่ 15 ธันวาคม 2566, การออกโฉนดที่ดินฉบับแรกในวันที่ 15 มกราคม 2567, และเงื่อนไขในการซื้อขายที่ดินหลังจากการเปลี่ยนเป็นโฉนด โดยต้องรอถึงระยะเวลา 5 ปี และมีเงื่อนไขในการกู้ยืมหรือขายที่ดินกับธนาคารที่ดิน และมุ่งเน้นการปรับปรุงกฎหมายและอำนวยความสะดวกในกระบวนการ, และวางแผนที่จะแจกโฉนดฉบับแรกในวันที่ 15 มกราคม 2567 ให้กับเกษตรกรทั่วประเทศ และผู้ที่มีสิทธิได้รับการจัดที่ดิน ส.ป.ก. ต้องเป็นเกษตรกรที่ถือครอง ส.ป.ก.4-01, มีคุณสมบัติทั่วไป, และปฏิบัติตามระเบียบของ ส.ป.ก. นั่นเอง

อ้างอิง https://vinemanfence.com/farmer-check-right-alro-to-title-deed/
โปรโมชั่นสำหรับคุณ ลวดหนาม รั้วลวดหนาม รั้วตะแกรงเหล็ก

ruataewada

**ดูแลสวนหลังบ้านให้สวยงามอยู่เสมอ**

สวนหลังบ้านเป็นพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจและเพิ่มความสวยงามให้กับบ้าน การดูแลสวนหลังบ้านให้สวยงามอยู่เสมอจึงเป็นเรื่องสำคัญ สามารถทำได้ง่ายๆ ดังนี้

**1. รู้จักเครื่องมือและเลือกใช้ให้เหมาะสม**

เครื่องมือสำหรับดูแลสวนหลังบ้านมีหลายชนิด เช่น กรรไกรตัดแต่งกิ่ง จอบและเสียม ถังรดน้ำ เป็นต้น ควรเลือกเครื่องมือให้เหมาะสมกับงานที่ต้องการทำ เช่น กรรไกรตัดแต่งกิ่งสำหรับตัดแต่งกิ่งไม้ จอบและเสียมสำหรับพรวนดิน ถังรดน้ำสำหรับรดน้ำต้นไม้ เป็นต้น

**2. รดน้ำต้นไม้อย่างสม่ำเสมอ**

ปริมาณน้ำที่ต้นไม้ต้องการขึ้นอยู่กับชนิดของต้นไม้ สภาพอากาศ และขนาดของต้นไม้ โดยทั่วไปควรรดน้ำต้นไม้วันละ 1-2 ครั้ง ในช่วงเช้าหรือเย็น

**3. ใส่ปุ๋ยบำรุงต้นไม้**

ปุ๋ยช่วยบำรุงต้นไม้ให้เจริญเติบโตและแข็งแรง ควรใส่ปุ๋ยให้ต้นไม้อย่างน้อยเดือนละครั้ง เลือกใช้ปุ๋ยให้เหมาะสมกับชนิดของต้นไม้

**4. ตัดแต่งกิ่งไม้อย่างสม่ำเสมอ**

การตัดแต่งกิ่งไม้ช่วยให้ต้นไม้เจริญเติบโตอย่างสมดุล ตัดแต่งกิ่งไม้ที่เป็นโรคหรือแห้งตายออก และตัดแต่งกิ่งไม้ให้อยู่ในรูปทรงที่ต้องการ

**5. กำจัดวัชพืช**

วัชพืชแย่งสารอาหารและน้ำจากต้นไม้ ควรกำจัดวัชพืชอย่างสม่ำเสมอ โดยใช้มือถอนหรือใช้เครื่องตัดหญ้า

**6. ทำความสะอาดสวนหลังบ้าน**

ทำความสะอาดสวนหลังบ้านเป็นประจำ เก็บกวาดเศษใบไม้และเศษขยะต่างๆ ออก เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งสะสมของโรคและแมลง

**7. ป้องกันโรคและแมลง**

โรคและแมลงเป็นศัตรูของต้นไม้ ควรหมั่นสังเกตต้นไม้ หากพบโรคและแมลงควรรีบกำจัดให้ทันเวลา

**8. ตกแต่งสวนหลังบ้าน**

การตกแต่งสวนหลังบ้านช่วยให้สวนหลังบ้านสวยงามและน่าพักผ่อน สามารถเลือกตกแต่งสวนหลังบ้านได้ตามสไตล์ที่ชอบ เช่น ตกแต่งด้วยไม้ดอกไม้ประดับ ปูสนามหญ้า ติดตั้งอุปกรณ์สำหรับนั่งพักผ่อน เป็นต้น

การดูแลสวนหลังบ้านให้สวยงามอยู่เสมอไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่ใส่ใจและดูแลอย่างสม่ำเสมอ สวนหลังบ้านก็จะเป็นพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจและเพิ่มความสวยงามให้กับบ้าน

โปรโมชั่นสำหรับคุณ ตะแกรงเหล็ก
ลวดหนาม
รั้วลวดหนาม
รั้วตาข่าย
ลวดหนามกันสนิม

ruataewada

**ทำสวนปลูกผัก ความสุขง่ายๆ ใกล้ตัว**

การปลูกผักเป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในปัจจุบัน ผู้คนหันมาสนใจปลูกผักเองมากขึ้น เพราะสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซื้อผักและได้ผักสดๆ ปลอดสารพิษมารับประทาน อีกทั้งการปลูกผักยังเป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพกายและใจอีกด้วย

**ประโยชน์ของการปลูกผัก**

การปลูกผักมีประโยชน์มากมาย ดังนี้

* **ได้ผักสดๆ ปลอดสารพิษมารับประทาน** ผักที่ปลูกเองนั้นไม่มีสารเคมีตกค้าง จึงปลอดภัยต่อสุขภาพมากกว่าผักที่ซื้อจากตลาด
* **ช่วยลดค่าใช้จ่าย** การปลูกผักเองนั้นสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซื้อผักได้ โดยเฉพาะผักที่มีราคาแพง
* **ได้ออกกำลังกาย** การปลูกผักเป็นกิจกรรมที่ต้องใช้แรงกาย จึงช่วยให้ร่างกายแข็งแรง
* **เป็นการพักผ่อนหย่อนใจ** การปลูกผักเป็นกิจกรรมที่ช่วยให้จิตใจสงบ ผ่อนคลายความเครียด

**วิธีการทำสวนปลูกผัก**

การทำสวนปลูกผักสามารถทำได้ง่าย ๆ ดังนี้

1. **เลือกพื้นที่ที่เหมาะสม** พื้นที่สำหรับปลูกผักควรเป็นพื้นที่ที่มีแสงแดดส่องถึงอย่างน้อย 6 ชั่วโมงต่อวัน
2. **เตรียมดิน** ดินสำหรับปลูกผักควรเป็นดินร่วนซุย มีอินทรียวัตถุสูง
3. **เลือกพันธุ์ผักที่เหมาะสม** เลือกพันธุ์ผักที่เหมาะกับสภาพอากาศและพื้นที่ปลูก
4. **หว่านหรือปลูกเมล็ด** หว่านหรือปลูกเมล็ดผักตามคำแนะนำของฉลากบรรจุภัณฑ์
5. **รดน้ำและดูแลอย่างสม่ำเสมอ** รดน้ำให้ผักชุ่มชื้นอยู่เสมอ และดูแลกำจัดวัชพืช

**ผักที่ปลูกง่าย**

ผักที่ปลูกง่าย ได้แก่ ผักสวนครัวทั่วไป เช่น ผักคะน้า ผักบุ้ง ผักกาดหอม ผักชี ต้นหอม มะเขือเทศ แตงกวา เป็นต้น ผักเหล่านี้ปลูกง่าย ดูแลไม่ยาก และสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ภายใน 1-2 เดือน

**เคล็ดลับในการทำสวนปลูกผัก**

* ควรเลือกผักที่เหมาะกับสภาพอากาศและพื้นที่ปลูก เพื่อให้ผักเจริญเติบโตได้ดี
* ควรเตรียมดินให้พร้อมก่อนปลูกผัก โดยใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักลงไปในดินเพื่อเพิ่มอินทรียวัตถุ
* ควรรดน้ำผักอย่างสม่ำเสมอ แต่ไม่ควรรดน้ำมากเกินไป เพราะจะทำให้รากผักเน่า
* ควรกำจัดวัชพืชอย่างสม่ำเสมอ เพราะวัชพืชแย่งสารอาหารและน้ำจากผัก
* ควรหมั่นสังเกตผัก หากพบโรคและแมลงควรรีบกำจัดให้ทันเวลา

การทำสวนปลูกผักเป็นกิจกรรมที่สามารถทำได้ทุกคน ไม่ว่าจะมีพื้นที่มากหรือน้อยก็สามารถปลูกผักได้ การปลูกผักเป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพกายและใจ อีกทั้งยังช่วยให้เราประหยัดค่าใช้จ่ายอีกด้วย
โปรโมชั่นสำหรับคุณ ตะแกรงเหล็ก
ลวดหนาม
รั้วลวดหนาม
รั้วตาข่าย
ลวดหนามกันสนิม

ruataewada

ปลูกผักหลังบ้าน

การปลูกผักหลังบ้านเป็นกิจกรรมที่สามารถทำได้ทุกคน ไม่ว่าจะมีพื้นที่มากหรือน้อยก็สามารถปลูกผักได้ การปลูกผักหลังบ้านเป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพกายและใจ อีกทั้งยังช่วยให้เราประหยัดค่าใช้จ่ายอีกด้วย

ประโยชน์ของการปลูกผักหลังบ้าน

การปลูกผักหลังบ้านมีประโยชน์มากมาย ดังนี้

เป็นแหล่งวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย ผักสดอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย เช่น วิตามินซี วิตามินเอ แคลเซียม เหล็ก เป็นต้น วิตามินและแร่ธาตุเหล่านี้มีส่วนช่วยในการบำรุงร่างกาย เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และป้องกันโรคต่างๆ
ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเรื้อรัง ผักมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันเซลล์ไม่ให้ถูกทำลายจากอนุมูลอิสระ อนุมูลอิสระเป็นสาเหตุของการเกิดโรคเรื้อรังต่างๆ เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคเบาหวาน เป็นต้น
ช่วยลดน้ำหนัก ผักมีกากใยสูง ช่วยทำให้รู้สึกอิ่มเร็ว จึงช่วยลดปริมาณอาหารและแคลอรีที่รับประทานเข้าไป ส่งผลให้น้ำหนักลดลง
เป็นกิจกรรมที่ผ่อนคลายและสร้างความสุข การปลูกผักเป็นกิจกรรมที่ช่วยให้จิตใจสงบ ผ่อนคลาย และสร้างความสุขให้กับตนเองและครอบครัว
ขั้นตอนการปลูกผักหลังบ้าน

การปลูกผักหลังบ้านสามารถทำได้ง่าย ๆ ดังนี้

เลือกพื้นที่ที่เหมาะสม พื้นที่สำหรับปลูกผักควรเป็นพื้นที่ที่มีแสงแดดส่องถึงอย่างน้อย 6 ชั่วโมงต่อวัน
เตรียมดิน ดินสำหรับปลูกผักควรเป็นดินร่วนซุย มีอินทรียวัตถุสูง
เลือกพันธุ์ผักที่เหมาะสม เลือกพันธุ์ผักที่เหมาะกับสภาพอากาศและพื้นที่ปลูก
หว่านหรือปลูกเมล็ด หว่านหรือปลูกเมล็ดผักตามคำแนะนำของฉลากบรรจุภัณฑ์
รดน้ำและดูแลอย่างสม่ำเสมอ รดน้ำให้ผักชุ่มชื้นอยู่เสมอ และดูแลกำจัดวัชพืช
ผักที่ปลูกง่าย

ผักที่ปลูกง่าย ได้แก่ ผักสวนครัวทั่วไป เช่น ผักคะน้า ผักบุ้ง ผักกาดหอม ผักชี ต้นหอม มะเขือเทศ แตงกวา เป็นต้น ผักเหล่านี้ปลูกง่าย ดูแลไม่ยาก และสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ภายใน 1-2 เดือน

เคล็ดลับในการทำสวนปลูกผัก

ควรเลือกผักที่เหมาะกับสภาพอากาศและพื้นที่ปลูก เพื่อให้ผักเจริญเติบโตได้ดี
ควรเตรียมดินให้พร้อมก่อนปลูกผัก โดยใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักลงไปในดินเพื่อเพิ่มอินทรียวัตถุ
ควรรดน้ำผักอย่างสม่ำเสมอ แต่ไม่ควรรดน้ำมากเกินไป เพราะจะทำให้รากผักเน่า
ควรกำจัดวัชพืชอย่างสม่ำเสมอ เพราะวัชพืชแย่งสารอาหารและน้ำจากผัก
ควรหมั่นสังเกตผัก หากพบโรคและแมลงควรรีบกำจัดให้ทันเวลา
การทำสวนปลูกผักหลังบ้านเป็นกิจกรรมที่สามารถทำได้ทุกคน ไม่ว่าจะมีพื้นที่มากหรือน้อยก็สามารถปลูกผักได้ การปลูกผักหลังบ้านเป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพกายและใจ อีกทั้งยังช่วยให้เราประหยัดค่าใช้จ่ายอีกด้วย
โปรโมชั่นสำหรับคุณ ตะแกรงเหล็ก
ลวดหนาม
รั้วลวดหนาม
รั้วตาข่าย
ลวดหนามกันสนิม

ruataewada

4 สัตว์เศรษฐกิจมาแรง สร้างรายได้งาม



เพื่อน ๆ รู้หรือไม่? หลังโควิด-19 เทรนด์สัตว์เศรษฐกิจมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก เพราะราคาตลาดของเนื้อสัตว์ที่เราบริโภคกันปกติ อย่างหมู ไก่ เนื้อวัว มีราคาสูงขึ้นจากการระบาดของโรคอหิวาต์ แอฟริกา ใน สุกร หรือ African Swine Fever(AFS) ที่ระบาดไปทั่วทุกมุมโลก ทำให้ตลาดต้องการเนื้อไก่ และเนื้อวัวจำนวนมากทำให้ราคาสูงขึ้นตามไปด้วย

 

สำหรับมือใหม่ที่ต้องการให้มาเลี้ยงสุกรที่เป็นสัตว์เศรษฐกิจ ควรรู้! ยังมีสัตว์เศรษฐกิจมาแรงอื่นๆ ในปี 2023 ที่สร้างรายได้มากกว่าสุกร มีอะไรบ้าง? เราจะมาหาคำตอบกันในบทความนี้ครับ

ปูนา สัตว์เศรษฐกิจคู่บ้านคู่เมืองไทย เลี้ยงได้ทุกภาค
 
ทำไมปูนาถึงกลายเป็นสัตว์เศรษฐกิจ
ปูนา เป็นสัตว์ที่อยู่คู่บ้านคู่เมืองคนไทยมาอย่างยาว และพบได้ทั่วทุกภูมิภาคของไทย มักอาศัยอยู่ตามคันนา แต่ปัจจุบันปริมาณของปูนาลดลง จากการใช้สารเคมีเพื่อการเกษตร ทำให้ปูนาขาดแคลนและมีราคาสูงอยู่ช่วงหนึ่ง จนต้องมีการทำฟาร์มไว้เพื่อจำหน่ายและกลายเป็นสัตว์เศรษฐกิจของไทย

เคล็ดลับวิธีการเลี้ยงปูนา
โดยปกติทั่วไป ปูนาเป็นสัตว์ที่มีนิสัยขี้หงุดหงิด อารมณ์ร้อน หากอยู่ในพื้นที่ที่ไม่เหมาะสมกับตัวเอง จะเริ่มทำร้ายตัวเองด้วยการหักแขน หักขาตัวเองทิ้ง การเลี้ยงปูนาจึงต้องเลี้ยงในบ่อดินที่คล้ายคลึงกับสภาพแวดล้อมเดิม เพื่อคลายความเครียด และในบ่อดินยังมีแร่ธาตุช่วยให้ปูแข็งแรง สามารถฟื้นตัวได้ดี นอกจากนี้ควรหมั่นเอาใจใส่ และสังเกตพฤติกรรมปูนาบ่อยๆ เพื่อคำนึงถึงสภาพแวดล้อม อาหาร อารมณ์ เพื่อให้ปูนาเจริญเติบโตได้ดีอยู่เสมอ

นอกจากนี้ ควรให้ความสำคัญกับอาหาร ซึ่งสามารถใช้อาหารเม็ดปลาดุก อาหารกบ หรือข้าวสวยเป็นอาหารมื้อหลัก งดให้อาหารที่มันๆ เพราะจะทำให้น้ำเสียงาน และเสริมด้วยอาหารเสริม เช่น แหนแดง จอก และสาหร่าย เป็นต้น

ราคาขายของปูนา
กิโลกรัมละ 120 บาทโดยประมาณ


กวางรูซ่า สัตว์เศรษฐกิจประโยชน์หลากหลาย
 
ทำไมกวางรูซ่าถึงกลายเป็นสัตว์เศรษฐกิจ
กวางรูซ่า เป็นสัตว์เศรษฐกิจที่มีประโยชน์หลากหลาย และสามารถนำทุกส่วนมาใช้ประโยชน์ได้ ทั้งเนื้อที่แสนอร่อยแถมยังไขมันต่ำ หนังที่เหมาะกับการทำเครื่องหนังและเครื่องประดับ เขากวางอ่อนที่เหมาะสำหรับการแปรรูปเป็นอาหารเสริมได้ ทำให้กวางรูซ่ากลายเป็นสัตว์เศรษฐกิจที่มาแรงของไทย เกษตรกรบางท่านสามารถสร้างรายได้สูงสุด 6,000,000 บาทต่อปีเลยทีเดียว

เคล็ดลับวิธีการเลี้ยงกวางรูซ่า
กวางรูซ่า เป็นสัตว์กินหญ้าเช่นเดียวกับวัว แต่ต่างกันตรงที่ กวางรูซ่าตัวเล็ก ใช้พื้นที่การเลี้ยงน้อยกว่า ต้านทานโรคได้ดี ไม่ป่วยง่าย และกินน้อยเพียงแค่ตัดหญ้าขนให้ทานก็สามารถเลี้ยงให้โตได้ เสริมด้วยแร่ธาตุ อาหารเสริมแบบเดียวกับวัวก็เพียงพอแล้ว งดการเสริมอาหารสำเร็จรูปเพราะจะทำให้กวางตัวอ้วนจนเกินไป เป็นอุปสรรคต่อการผสมพันธ์ุ เพียงแค่ปลูกหญ้าขนที่เจริญเติบโตง่ายและขึ้นโดยทั่วไปก็ให้โปรตีนที่เพียงพอต่อกวางได้แล้ว

ราคาขายของกวางรูซ่า
ส่วนเนื้อกวาง ราคากิโลกรัมละ 200-500 บาทโดยประมาณ, เขากวางอ่อน ราคา 5,000-10,000 บาทโดยประมาณ


จระเข้ สัตว์เศรษฐกิจสายแฟชั่น
 

ทำไมจระเข้ถึงกลายเป็นสัตว์เศรษฐกิจ
ทุกคนคนคุ้นชินกันอยู่นานหลายปีแล้วว่า จระเข้ เป็นสัตว์ที่กินได้ และหนังของมันก็เอาไปทำกระเป๋าได้ แต่ปี 2023 นี้ เนื้อจระเข้ถูกพูดถึงเป็นอย่างมากว่า ไขมันน้อย รสชาติดี และมีเนื้อสัมผัสคล้ายๆ กับอกไก่ ทำให้เนื้อจระเข้เป็นที่แนะนำและน่าสนใจเป็นพิเศษ อีกทั้ง ส่วนของหนังจระเข้ก็สามารถนำไปทำเครื่องหนังส่งออกต่างประเทศได้อย่างดี โดยจระเข้ที่นำมาเลี้ยงเป็นสัตว์เศรษฐกิจมีอยู่ 2 สายพันธุ์ด้วยกัน ได้แก่ จระเข้น้ำจืดหรือจระเข้พันธุ์ไทย และจระเข้น้ำเค็ม

เคล็ดลับวิธีการเลี้ยงจระเข้
การเลี้ยงจระเข้แน่นอนว่าควรจะมีบ่อเลี้ยงที่ปิดมิดชิดเพื่อป้องกันการหลุดลอดของจระเข้ออกสู่ธรรมชาติ ซึ่งมีความอันตรายสูง โดยพื้นที่รอบบ่อควรจะมีเสียงรบกวนน้อยที่สุด ไม่พลุกพล่านจนเกินไป มีแสงแดดส่องถึง และมีอาหารที่เพียงพอต่อจระเข้ตลอดเวลา การให้อาหารจระเข้ควรให้ 2-3 วันต่อครั้งด้วยเนื้อไก่สดติดกระดูกสำหรับจระเข้อายุไม่เกิน 1 ปี แต่หากเป็นสัตว์ชนิดอื่นควรให้สำหรับจระเข้ที่มีอายุมากกว่า 1 ปีไปแล้ว

การเตรียมบ่อจระเข้ควรเป็นบ่อแถวคู่ลักษณะ บกครึ่งหนึ่ง และน้ำครึ่งหนึ่ง ความยาวประมาณ 1.80 เมตร กว้าง 1 เมตร สูง 1.50 เมตร และส่วนที่เป็นบกสูง 50 เมตร พร้อมขัดมันพื้นบ่อและรอบบ่อเพื่อป้องกันลูกจระเข้ปีน และวางท่อระบายน้ำสองอัน สำหรับใต้น้ำควรใช้ท่อพีวีซี่ 2.5 – 3 นิ้ว และท่อบนน้ำใช้ควบคุมประมาณน้ำไม่ให้มากเกินไป ป้องกันน้ำท่วมนั่นเอง

การเลี้ยงจระเข้นั้น แน่นอนว่ามีต้นทุนสูงเพราะเนื้อไก่สดมีราคาสูง แต่เกษตรกรที่ต้องการประหยัดต้นทุนสามารถเลี้ยงลูกกบไว้สำหรับเป็นอาหารจระเข้เพื่อลดต้นทุนค่าอาหาร และหากมีพื้นที่ก็ควรจะเลี้ยงกบเพาะพันธุ์ควบคู่ไว้เพื่อเป็นอาหารให้จระเข้ได้อีกด้วย

ราคาขายของจระเข้
ส่วนเนื้อกวาง ราคากิโลกรัมละ 180 บาทโดยประมาณ,  ส่วนบ้องตัน ราคา 240  บาทโดยประมาณ, จระเข้ทั้งตัวราคาอยู่ที่ 900-1,500 บาทโดยประมาณ

สรุป
ในปี 2023 นี้ สัตวเศรษฐกิจหลายชนิดไม่คุ้นหูคุ้นตาเรามาก่อน หรือบางตัวก็เคยได้ยินชื่อมาบ้าง แต่เรียกได้เลยว่า 4 สัตว์เศรษฐกิจมาแรงที่เรานะนำมาในวันนี้ ทั้งปูนา กวางรูซ่า จระเข้ และกระต่าย ต่างสร้างรายได้งามให้กับเกษตรกรได้อย่างแน่นอน หลายๆ ท่านคงได้ไอเดียในการทำปศุสัตว์ที่ตอบโจทย์ตลาด แต่อย่าลืมที่จะศึกษาเทรนด์ตลาด และอัพเดตข่าวสารความรู้ใหม่ๆ อยู่เสมอนะครับ

ที่มาhttps://vinemanfence.com/4-popular-livestocks-good-income/
https://www.technologychaoban.com/livestock-technology/article_247855
https://www.rakbankerd.com/agriculture/page.php?id=317&s=tblheight
https://www.palangkaset.com/%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%A7%E0%B9%8C%E0%B8%9A%E0%B8%81/%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B9%89%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B8%8B%E0%B9%88%E0%B8%B2-1/
https://www.technologychaoban.com/bullet-news-today/article_242362

ruataewada

รั้วตาข่าย

รั้วตาข่ายเป็นรั้วชนิดหนึ่งที่ทำจากตาข่าย ตาข่ายเป็นวัสดุที่มีลักษณะเป็นช่องว่างเล็กๆ สามารถใช้ทำรั้วได้หลายรูปแบบ เช่น รั้วตาข่ายถักปม รั้วตาข่ายลวด รั้วตาข่ายเหล็ก เป็นต้น รั้วตาข่ายทำหน้าที่กั้นขอบเขตของพื้นที่หรือทรัพย์สิน
ช่วยป้องกันไม่ให้บุคคลหรือสัตว์ต่าง ๆ เข้ามาในพื้นที่โดยไม่ได้รับอนุญาต อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความสวยงามให้กับพื้นที่อีกด้วย

ประเภทของรั้วตาข่าย

รั้วตาข่ายมีหลายประเภท ขึ้นอยู่กับลักษณะของตาข่ายที่ใช้ทำและรูปแบบของรั้ว ประเภทของรั้วตาข่ายที่นิยม ได้แก่

รั้วตาข่ายถักปม เป็นรั้วตาข่ายที่มีลักษณะเป็นช่องว่างเล็กๆ ถักทอเป็นปม รั้วตาข่ายถักปมมีความแข็งแรงทนทาน และสามารถดัดโค้งได้ตามต้องการ
รั้วตาข่ายลวด เป็นรั้วตาข่ายที่มีลักษณะเป็นช่องว่างเล็กๆ ยึดติดกันด้วยลวด รั้วตาข่ายลวดมีความแข็งแรงทนทาน และสามารถติดตั้งได้ง่าย
รั้วตาข่ายเหล็ก เป็นรั้วตาข่ายที่มีลักษณะเป็นช่องว่างเล็กๆ ผลิตจากเหล็ก รั้วตาข่ายเหล็กมีความแข็งแรงทนทาน และสามารถป้องกันสัตว์ขนาดใหญ่ได้ดี
ข้อดีและข้อเสียของรั้วตาข่าย

ข้อดี

แข็งแรงและทนทาน
ติดตั้งง่าย
ราคาไม่แพง
สามารถดัดโค้งได้ตามต้องการ
มองเห็นวิวด้านนอกได้
ข้อเสีย

อาจไม่ปลอดภัยต่อบุคคลหรือสัตว์ขนาดเล็ก
อาจทำให้ทัศนียภาพดูไม่สวยงาม
การติดตั้งรั้วตาข่าย

การติดตั้งรั้วตาข่ายสามารถทำได้ด้วยตัวเองหรือจ้างช่างมืออาชีพ ขั้นตอนการติดตั้งรั้วตาข่าย มีดังนี้

เตรียมพื้นที่ ปรับพื้นที่ให้เรียบเสมอกัน กำจัดวัชพืชและสิ่งกีดขวางต่าง ๆ
ทำฐานราก ฐานรากเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับรั้ว ฐานรากของรั้วตาข่ายมีหลายประเภท เช่น ฐานรากเสาเข็ม ฐานรากเสาตอม่อ เป็นต้น
ติดตั้งเสา เสาเป็นโครงสร้างหลักของรั้ว เสารั้วมีหลายประเภท เช่น เสาไม้ เสาเหล็ก เสาคอนกรีต เป็นต้น
ติดตั้งตาข่าย ติดตั้งตาข่ายตามรูปแบบที่ต้องการ
ตกแต่งรั้ว ตกแต่งรั้วให้มีความสวยงามตามต้องการ เช่น ทาสี ติดลวดลาย เป็นต้น
การดูแลรักษารั้วตาข่าย

การดูแลรักษารั้วตาข่ายสามารถทำได้ด้วยตัวเอง ดังนี้

ตรวจสอบรั้วเป็นประจำ หากพบรอยขาดหรือชำรุด ให้ซ่อมแซมหรือเปลี่ยนใหม่ทันที
ทาสีรั้วเป็นประจำ เพื่อให้รั้วดูสวยงามและป้องกันสนิม
รั้วตาข่ายเป็นรั้วที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย เนื่องจากมีความแข็งแรง ทนทาน และราคาไม่แพง รั้วตาข่ายเหมาะสำหรับพื้นที่ที่ต้องการความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว เช่น พื้นที่รอบบ้าน โรงงาน สถานที่ราชการ เป็นต้น
โปรโมชั่นสำหรับคุณ ตะแกรงเหล็ก
ลวดหนาม
รั้วลวดหนาม
รั้วตาข่าย
ลวดหนามกันสนิม