• Welcome to รอบรั้วมหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง.
 

ปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ มีกี่แบบ

เริ่มโดย ruataewada, ต.ค 02, 2023, 09:16 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

ruataewada

ทำไมที่ดินถึงมีราคาสูงขึ้น



ที่ดินแปลงหนึ่งมีแค่ที่เดียว
นี่เรียกว่าเป็นจุดเด่นของที่ดินเลยก็ว่าได้ ที่ดินหนึ่งแห่งนั้นมีคุณสมบัติเฉพาะในตัวมันเอง และมีเพียงชิ้นเดียว ไม่สามารถผลิตเพิ่มได้ หากอยากได้มาครอบครองก็ต้องซื้อต่อสถานเดียวครับ

จำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น
เมื่อประชากรมีจำนวนมากขึ้น ความต้องการด้านที่อยู่อาศัยก็เพิ่มขึ้น ยิ่งในปัจจุบันคนต้องการมีพื้นที่ส่วนตัว และต้องการมีครอบครัวเดี่ยวด้วยแล้ว ราคาที่ดินจึงลดลงได้ยาก เมื่อ Demand กับ Supply มาเจอกัน ราคาที่ดินย่อมดีดตัวสูงขึ้น เนื่องจากทรัพยากรมีจำกัดนั่นเองครับ

ความเจริญของเมือง
แน่นอนว่าเมื่อสังคมเมืองมีการขยายตัว มีห้างสรรพสินค้า รถไฟฟ้า และการขนส่งสาธารณะที่สะดวกสบาย ราคาที่ดินในละแวกนั้นย่อมสูงขึ้นตามไปด้วย ยิ่งใกล้สถานที่ที่เป็นทำเลทองมากเท่าไร แปลว่าคนที่อาศัยอยู่บนที่ดินนั้นจะสะดวกสบายในการใช้ชีวิตมากขึ้น ดังนั้น ที่ดินบริเวณนั้นจึงแพงและมิอาจประเมินราคาที่ดินได้เลย ส่วนมากคนที่ซื้อต่อจึงเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์นั่นเอง

เงินเฟ้อ
ถึงแม้ว่ามูลค่าที่ดินจะเท่าเดิม หรือหยุดนิ่งไปบ้าง แต่ถ้าเกิดปัญหาเงินเฟ้อ ราคาที่ดินย่อมมีราคาสูงขึ้นตามไปด้วย ตามเศรษฐกิจโดยรวมนั่นเองครับ

ข้อสังเกต
อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ราคาที่ดินมีราคาสูงขึ้นกว่ามูลค่าของมัน เป็นเพราะช่วงภาวะฟองสบู่ สังคมหันมาลงทุนซื้อที่ดิน สร้างอสังหาฯ เพื่อเก็งกำไร ซึ่งราคาที่ดินที่สูงเกินความเป็นจริง จริงๆ แล้วได้ผสมรวมกำไรที่คาดหวังในอนาคตด้วย ดังนั้น หากมีผู้ซื้อเพื่อเอาไว้ลงทุนในอนาคตมากเท่าไร ราคาที่ดินก็ยิ่งแพงหูฉี่มากเท่านั้นครับ
แต่ถ้าฟองสบู่แตก มูลค่าผสมรวมกำไรที่คาดหวังในอนาคตก็จะลดลงไปด้วย ราคาที่ดินก็อาจจะลดลงเท่ากับมูลค่าที่แท้จริงของมันครับ
ลวดหนาม
รั้วลวดหนาม
รั้วตาข่าย
ลวดหนามกันสนิม

ruataewada

ดูแลรักษาท่อน้ำ อย่างไรให้สะอาด ปลอดภัย ใช้งานได้ยาวนาน



ท่อน้ำเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวันของเรา ทำหน้าที่ลำเลียงน้ำสะอาดมาให้เราใช้ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการชำระล้างร่างกาย ประกอบอาหาร หรือใช้ในการอุปโภคบริโภคอื่นๆ ดังนั้นการดูแลรักษาท่อน้ำให้สะอาด ปลอดภัย และใช้งานได้ยาวนานจึงเป็นเรื่องสำคัญ

วิธีดูแลรักษาท่อน้ำ

ทำความสะอาดท่อน้ำอย่างสม่ำเสมอ
การทำความสะอาดท่อน้ำอย่างสม่ำเสมอจะช่วยกำจัดสิ่งสกปรก ไขมัน และตะกรันต่างๆ ที่อาจสะสมอยู่ในท่อน้ำ ซึ่งอาจก่อให้เกิดปัญหาต่างๆ เช่น ท่อน้ำตัน น้ำไหลช้า หรือน้ำมีกลิ่นไม่พึงประสงค์

การทำความสะอาดท่อน้ำสามารถทำได้ด้วยตนเองหรือจ้างช่างประปามาดำเนินการ โดยหากทำความสะอาดด้วยตนเองสามารถทำได้ดังนี้

ปิดวาล์วน้ำที่ปลายท่อ
ถอดอุปกรณ์ต่างๆ ออกจากท่อ
ใช้น้ำยาล้างท่อหรือน้ำยาอื่นๆ ที่เหมาะสมฉีดล้างภายในท่อ
ใช้แปรงขัดทำความสะอาดบริเวณที่สกปรก
ล้างน้ำสะอาดอีกครั้ง
ประกอบอุปกรณ์ต่างๆ กลับเข้าที่
ตรวจสอบท่อน้ำเป็นประจำ
ควรตรวจสอบท่อน้ำเป็นประจำ หากพบรอยรั่วหรือรอยแตกร้าวให้รีบซ่อมแซมโดยเร็ว เพราะหากปล่อยให้รั่วนานอาจทำให้ท่อน้ำแตกเสียหายและอาจก่อให้เกิดปัญหาอื่นๆ ตามมา

เลือกใช้ท่อน้ำคุณภาพดี
การเลือกท่อน้ำคุณภาพดีจะช่วยให้ท่อน้ำมีอายุการใช้งานยาวนานและลดปัญหาต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้

ข้อควรระวังในการทำความสะอาดท่อน้ำ

ควรสวมใส่อุปกรณ์ป้องกัน เช่น ถุงมือ แว่นตา และหน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันอันตรายจากการสัมผัสกับสารเคมีหรือสิ่งสกปรกต่างๆ
ไม่ควรใช้สารเคมีที่มีฤทธิ์รุนแรงในการทำความสะอาดท่อน้ำ เพราะอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม
หากพบปัญหาท่อน้ำตันหรือท่อน้ำรั่ว ควรปรึกษาช่างประปาที่มีความชำนาญ
ประโยชน์ของการดูแลรักษาท่อน้ำ

ช่วยให้ท่อน้ำสะอาด ปลอดภัย และใช้งานได้ยาวนาน
ช่วยลดปัญหาต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นกับท่อน้ำ เช่น ท่อน้ำตัน น้ำไหลช้า หรือน้ำมีกลิ่นไม่พึงประสงค์
ช่วยให้น้ำประปาสะอาดและปลอดภัยต่อสุขภาพ
การดูแลรักษาท่อน้ำเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะจะช่วยให้ท่อน้ำสะอาด ปลอดภัย และใช้งานได้ยาวนาน ช่วยลดปัญหาต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นกับท่อน้ำ ช่วยให้น้ำประปาสะอาดและปลอดภัยต่อสุขภาพ

โปรโมชั่นสำหรับคุณ ลวดหนาม รั้วลวดหนาม
รั้วตาข่าย ลวดหนาม

ruataewada


**ปลูกพืชในน้ำ ง่าย สะดวก ปลอดสารพิษ**

การปลูกพืชในน้ำเป็นเทคนิคการปลูกพืชโดยไม่ใช้ดิน โดยนำรากของพืชมาแช่อยู่ในน้ำที่ผสมสารละลายอาหารพืช การปลูกพืชในน้ำมีข้อดีหลายประการ ดังนี้

* **ประหยัดพื้นที่** การปลูกพืชในน้ำไม่จำเป็นต้องใช้พื้นที่มาก สามารถปลูกได้ในพื้นที่จำกัด เช่น บนระเบียง บนโต๊ะ หรือแม้แต่ในห้องน้ำ
* **สะดวกในการดูแลรักษา** ไม่จำเป็นต้องพรวนดินหรือกำจัดวัชพืช เพียงแค่เติมน้ำและสารละลายอาหารพืชให้เพียงพอ
* **ปลอดสารพิษ** การปลูกพืชในน้ำไม่ใช้สารเคมีในการปลูก จึงปลอดภัยต่อผู้บริโภค

**วิธีการปลูกพืชในน้ำ**

การปลูกพืชในน้ำสามารถทำได้หลายวิธี ที่นิยมกัน ได้แก่

* **การปลูกพืชในแก้วน้ำ** เป็นวิธีที่ง่ายที่สุด เพียงแค่นำต้นกล้าหรือเมล็ดพืชมาแช่ไว้ในแก้วน้ำที่ผสมสารละลายอาหารพืช
* **การปลูกพืชในกระถางไฮโดรโปนิกส์** เป็นวิธีที่สะดวกและสวยงาม กระถางไฮโดรโปนิกส์มีหลายรูปแบบให้เลือก วัสดุที่ใช้ปลูกพืชในกระถางไฮโดรโปนิกส์ ได้แก่ หินภูเขาไฟ หินกรวด หินโรย หรือวัสดุสังเคราะห์
* **การปลูกพืชในระบบไฮโดรโปนิกส์** เป็นระบบการปลูกพืชในน้ำที่มีอุปกรณ์และการควบคุมที่ซับซ้อนกว่าการปลูกพืชในแก้วน้ำหรือกระถางไฮโดรโปนิกส์ ระบบไฮโดรโปนิกส์มีหลายประเภทให้เลือก ที่นิยมกัน ได้แก่ ระบบหยด ระบบน้ำวน ระบบน้ำนิ่ง เป็นต้น

**พืชที่ปลูกในน้ำได้**

พืชที่ปลูกในน้ำได้มีหลายชนิด ที่นิยมปลูก ได้แก่

* **ผักใบ** เช่น ผักกาดหอม ผักบุ้งจีน ผักชี ต้นหอม คะน้า เป็นต้น
* **ผักผลไม้** เช่น แตงกวา มะเขือเทศ มะเขือยาว เป็นต้น
* **ไม้ประดับ** เช่น เศรษฐีเรือนใน ว่านหางจระเข้ เฟิร์น เป็นต้น

**การดูแลรักษาพืชที่ปลูกในน้ำ**

การดูแลรักษาพืชที่ปลูกในน้ำมีดังนี้

* **เปลี่ยนน้ำ** ควรเปลี่ยนน้ำทุก 2-3 วัน หรือเมื่อน้ำเริ่มมีตะกอน
* **เติมสารละลายอาหารพืช** ควรเติมสารละลายอาหารพืชตามคำแนะนำบนฉลาก
* **แสงแดด** พืชที่ปลูกในน้ำต้องการแสงแดดเพียงพอ ควรวางกระถางหรือแก้วน้ำปลูกพืชในที่ที่มีแสงแดดส่องถึง

การปลูกพืชในน้ำเป็นกิจกรรมที่สามารถทำได้ง่าย ๆ เหมาะสำหรับผู้ที่มีพื้นที่จำกัดหรือต้องการปลูกพืชปลอดสารพิษ การปลูกพืชในน้ำเป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์มากมาย นอกจากจะทำให้เรามีพืชผักสด ๆ ไว้รับประทานแล้ว ยังทำให้เราได้เรียนรู้เกี่ยวกับธรรมชาติและการปลูกพืชอีกด้วย

โปรโมชั่นสำหรับคุณ ลวดหนาม รั้วลวดหนาม
รั้วตาข่าย ลวดหนาม


ruataewada


เปลี่ยน ส.ป.ก. เป็นโฉนด เริ่มวันนี้ เกษตรกร เช็คสิทธิ์-วิธี ด่วน!

รู้หรือไม่? เกษตรกรจำนวนมากขาดเอกสารสิทธิ์หรือโฉนดที่ดินที่ตัวเองใช้ทำมาหากิน และหลายคนกำลังเป็นข้อพิพาทที่ดินกับรัฐ บางกรณียืดเยื้อมาหลายสิบปี และถูกซ้ำเติมโดยนโยบายของรัฐ แม้เกษตรกรจะมีที่ดิน ส.ป.ก ก็ยังไม่มั่นคงในการถือครองเพราะห้ามเปลี่ยนมือซื้อขาย ทำให้เกษตรไม่มีแรงจูงใจในการพัฒนาที่ดินนั่นเอง

แต่มื่อวันที่ 8 ธ.ค. 2566 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม เห็นชอบหลักการแปลงที่ดิน ส.ป.ก. 4-01 เป็นโฉนด ทำให้การเปลี่ยน ส.ป.ก. เป็นฉโนดที่ดิน 2566 ได้รับความสนใจจากเกษตรเกษตรที่ได้รับสิทธิถือครอง ส.ป.ก.4-01 ที่มีอยู่จำนวน 1,628,520 ราย ภายหลัง คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม หรือ คปก. มีมติเห็นชอบหลักการปรับปรุงเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 4-01 เพื่อยกระดับเป็นโฉนดที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ตามกฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม

นโยบายรัฐบาลในการขับเคลื่อนการปรับปรุงหนังสือนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน หรือ ส.ป.ก. 4-0 1 ให้เป็นโฉนดที่ดินเพื่อเกษตรกรรม

เเต่ที่เราจะรู้ว่าการเปลี่ยนโฉนดนั้นมีการเปลี่ยนเเปลงอะไรบ้าง เราต้องมารู้กันก่อนว่า ส.ป.ก คืออะไร ส.ป.ก คือ การปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม หรือที่ดิน ส.ป.ก.4-01 คือที่ดินเพื่อเกษตรกรรมที่รัฐทำการจัดสรรให้แก่เกษตรกรผู้ไม่มีที่ทำกินของตนเอง หรือมีเพียงเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพและสถาบันการเกษตร ซึ่งทางรัฐให้ความช่วยเหลือในการพัฒนาอาชีพเกษตรกรรม ให้มีการใช้ทรัพยากรจากพื้นที่ ผลิตจำหน่ายให้เกิดผลผลิตที่ดี

ผู้ที่ได้รับสิทธิ์การเปลี่ยน ส.ป.ก. เป็นฉโนดที่ดิน 2566
เกษตรกรที่ถือเอกสารสิทธิ์ สปก. อยู่แล้ว และยังใช้ประโยชน์ในพื้นที่นั้น ต่อเนื่องมา 10 ปีขึ้นไป จะได้รับการเปลี่ยนเป็นโฉนดที่ดิน ภายในระยะเวลา 2 ปี
โดยได้รับสิทธิ์ตามเอกสารสิทธิ์ที่ตนถืออยู่ แต่จะยังไม่ซื้อขายที่ดินดังกล่าวได้ในระยะเวลา 5 ปีจากวันที่ได้รับโฉนด
หากในกรณีที่มีความจำเป็นในการกู้ยืม (การจำนอง) หรือจำเป็นจะต้องขายที่ดินที่ได้รับโฉนดนั้นก่อนเวลา 5 ปี ให้ดำเนินการผ่านธนาคารที่ดิน (ที่จะจัดตั้งขึ้น) โดยธนาคารที่ดินจะคิดราคาที่ดินตามราคาประเมินของที่ดินที่มีโฉนด
ส่วนเกษตรกรที่ยังไม่ได้เป็นผู้ถือเอกสารสิทธิ์ในที่ดิน สปก. (หรือเป็นผู้ซื้อ/เปลี่ยนมือที่ดิน สปก. นั้น) เกษตรกรจะได้รับการเปลี่ยนเป็นโฉนดที่ดิน หาก (ก) เกษตรกรมีการใช้ประโยชน์ที่ดินในการทำการเกษตรต่อเนื่องมา 10 ปีขึ้นไป และ (ข) มีเอกสารหรือพยานการทำข้อตกลง/การยินยอมจากผู้ที่มีชื่อในเอกสารสิทธิ์ สปก. รวมถึง (ค) เกษตรกรผู้นั้นจะต้องเป็นผู้ที่มีทรัพย์สินไม่เกิน 10 ล้านบาท เกษตรกรดังกล่าวจะสามารถเปลี่ยน สปก. เป็นโฉนดได้ไม่เกิน 50 ไร่

ระเบียบฯ การเปลี่ยน ส.ป.ก. เป็นฉโนดที่ดิน 2566
เกษตรกรหรือสถาบันเกษตรกรผู้ได้รับมอบที่ดินให้เข้าทำประโยชน์ในที่ดินมีหน้าที่ปฏิบัติ ดังต่อไปนี้

(1) ต้องทำประโยชน์ในที่ดินด้วยตนเองเต็มความสามารถ และไม่นำที่ดินนั้นทั้งหมดหรือบางส่วนไปให้บุคคลอื่นไม่ว่าจะโดยการขาย ให้เช่า หรือเข้าทำประโยชน์ หรือโดยพฤติกรรมใดๆ ที่แสดงให้เห็นในลักษณะนั้น เว้นแต่ได้รับความยินยอมจาก ส.ป.ก. ทั้งนี้ ไม่รวมถึงกรณีการโอนให้เป็นไปตามที่ระเบียบคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการคัดเลือกและจัดที่ดินให้แก่เกษตรกร การโอน หรือตกทอดทางมรดกสิทธิการเช่าหรือเช่าซื้อและการจัดการทรัพย์สินและหนี้สินของเกษตรกรผู้ได้รับที่ดิน พ.ศ. 2564 กำหนด
ห้ามมิให้ผู้ได้รับโฉนดเพื่อการเกษตรเปลี่ยนมือ สละสิทธิ หรือกระทำการอื่นใด เพื่อให้บุคคลอื่นได้รับสิทธิในโฉนดเพื่อการเกษตรแทนตน ภายในสองปี นับแต่วันที่ออกโฉนดเพื่อการเกษตร เว้นแต่เป็นการจัดที่ดินแทนที่แก่คู่สมรส บุตร เครือญาติหรือทายาท

(2) ยินยอมทำสัญญาเช่า หรือสัญญาเช่าซื้อ หรือสัญญาจัดให้ โดยมีค่าชดเชยและต้องปฏิบัติตามสัญญาดังกล่าว
(3) ไม่เปลี่ยนแปลงสภาพที่ดิน จนเป็นเหตุให้ที่ดินเสื่อมสภาพความเหมาะสมแก่การประกอบเกษตรกรรม
(4) ไม่ขุดบ่อเพื่อการเกษตรกรรมเกินร้อยละห้าของเนื้อที่ที่ได้รับมอบ
(5) ไม่ปลูกสร้างสิ่งก่อสร้างใด ๆ เว้นแต่การปลูกสร้างตามสมควรสำหรับโรงเรือนที่อยู่อาศัยยุ้งฉาง หรือสิ่งก่อสร้างอื่น ๆ ที่ใช้ประโยชน์เพื่อการเกษตรของเกษตรกรหรือสถาบันเกษตรกรนั้น
(6) ดูแลรักษาหมุดหลักฐานของ ส.ป.ก. และหลักเขตที่ดินในที่ดินที่ได้รับมอบมิให้เกิดชำรุดเสียหายหรือเคลื่อนย้ายไปจากตำแหน่งเดิม
(7) ไม่กระทำการใดๆ ในลักษณะที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่สิ่งก่อสร้างในโครงการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม การทำประโยชน์ในที่ดินของเกษตรกรอื่นและสภาพแวดล้อม
(8) ปฏิบัติตามมติของคณะกรรมการ คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัด รวมทั้งคำสั่งของเลขาธิการหรือผู้ซึ่งเลขาธิการมอบหมาย
(9) ปฏิบัติตามสัญญากู้ยืมที่ทำกับ ส.ป.ก. และปฏิบัติตามพันธกรณีที่มีอยู่กับสถาบันการเงินหรือบุคคลที่ดำเนินงานร่วมกับ ส.ป.ก

วิธีการเปลี่ยน ส.ป.ก เป็นฉโนดที่ดิน ปี 2566
ดาวน์โหลดแอป "SmartLands" หรือเข้าไปที่เว็บไซต์ dol.go.th บนโทรศัพท์ที่มีอินเตอร์เน็ตและเปิดสัญญาณ GPS โดยจำต้องดำเนินการบริเวณที่ดินของผู้ต้องการเปลี่ยน ส.ป.ก
เลือกเมนู "บอกดิน" และกดปุ่ม "แจ้งตำแหน่งที่ดิน"
รอให้ระบบแสดงค่าพิกัดตำแหน่งที่ดินของท่าน
กรอกข้อมูลเจ้าของที่ดิน เช่น ชื่อ, ที่อยู่, หมายเลขโทรศัพท์ ตามที่ระบบกำลังแสดง
เลือกหลักฐานที่ดินที่มีอยู่กับท่าน เช่น ส.ป.ก., น.ส.3, น.ส.3 ก
หากไม่มีหลักฐานใดๆ ให้เลือก "อื่นๆ" และกดปุ่ม "ส่ง"
รอระบบตรวจสอบและดำเนินการประมวลผล หลังจากนั้นรอรับการแจ้งกลับจากระบบหรือจากกรมที่ดินผ่านทางเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน "SmartLands"
สามารถติดตามสถานะการดำเนินการผ่านทางแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ได้

สรุป
การเปลี่ยนส.ป.ก.เป็นโฉนดที่ดินในปี 2566 ต้องเป็นเกษตรกรที่ใช้ประโยชน์ที่ดินต่อเนื่องมา 10 ปี ไม่ปล่อยให้ที่ดิน รกร้างว่างเปล่า ต้องมีการทำเกษตร หรือล้อมรั้ว เเบ่งที่ไว้อย่างชัดเจน การที่ล้อมรั้วตาข่าย หรือ ล้อมรั้วลวดหนาม จะเป็นตัวช่วยในการกำหนดขอบเขตของที่ดิน ไม่ให้เสียประโยชน์พื้นที่นั้นไป , ได้รับสิทธิ์ในระยะ 2 ปี, แต่ไม่สามารถซื้อขายที่ดินที่ได้รับโฉนดได้ภายใน 5 ปี, และกรณีจำเป็นในการกู้ยืมหรือขายที่ดินต้องผ่านธนาคารที่ดินที่จัดตั้งขึ้น เกษตรกรที่ยังไม่ถือ ส.ป.ก. สามารถได้รับการเปลี่ยนเป็นโฉนดที่ดิน หากใช้ประโยชน์ที่ดินในการทำการเกษตรต่อเนื่องมา 10 ปี, มีเอกสารหรือพยานการทำข้อตกลง/การยินยอม, เป็นเจ้าของทรัพย์สินไม่เกิน 10 ล้านบาท, และสามารถเปลี่ยนส.ป.ก.เป็นโฉนดได้ไม่เกิน 50 ไร่

ขอบคุณที่มาจาก https://www.ruataewada.com/change-alro-to-title-deed-how-and-check-right/

ruataewada


เกษตรกรต้องเช็ค! การเปลี่ยน ส.ป.ก. เป็นโฉนดที่ดิน 2567 กลุ่มไหนได้รับสิทธิ์บ้าง

เกษตรกรที่ได้รับสิทธิถือครอง ส.ป.ก.4-01 จำนวน 1,628,520 ราย ต้องรู้! เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2566 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะประกาศในราชกิจจานุเบกษา อนุญาตให้เปลี่ยนเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 4-01 ทั่วประเทศ 22 ล้านไร่ เป็นฉโนดที่ดินฯ ภายในระยะเวลา 2 ปี หากยังไม่ทราบถึงข้อกำหนด วันนี้ เราจะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับที่ดิน ส.ป.ก. และเงื่อนไขการเปลี่ยนเป็นฉโนดกันในบทความนี้ครับ...

ที่ดิน ส.ป.ก. คืออะไร?
ส.ป.ก. ย่อมาจาก "สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม" หมายถึง  ที่ดินของสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมให้ที่ดินแก่เกษตรกรที่ไม่มีที่ดินทำกินเข้ามาทำประโยชน์ โดยทำการเกษตรในที่ดินนั้นๆ

ที่ดิน ส.ป.ก. หรือ ที่ดิน ส.ป.ก. 4-01 คือ เอกสารแสดงการครอบครองที่ดินที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ออกให้กับประชาชนเข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน ตามพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2518 โดยมีหลักว่า ที่ดินในเขตปฏิรูปนั้นใช้ทำเกษตรกรรมได้อย่างเดียวเท่านั้น ทำประโยชน์อย่างอื่นไม่ได้ และผู้ครอบครองทำประโยชน์ในที่ดิน ส.ป.ก. 4-01 จะต้องมีฐานะยากจน

ที่ดิน ส.ป.ก. ซื้อขายได้หรือไม่?
ตามพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2518 ตามมาตรา 39 ระบุว่า ที่ดินที่บุคคลได้รับสิทธิโดยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมจะทำการแบ่งแยก หรือโอนสิทธิในที่ดินนั้นไปยังผู้อื่นมิได้ เว้นแต่เป็นการตกทอดทางมรดกแก่ทายาทโดยธรรม หรือโอนไปยังสถาบันเกษตรกร หรือ ส.ป.ก. เพื่อประโยชน์ในการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง หากมีการซื้อขายเปลี่ยนมือที่ดิน ส.ป.ก. กฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมได้กำหนดมาตรการหรือโทษตามกฎหมาย โดยผู้ขายต้องเสียสิทธิทำกินในที่ดินที่ได้รับอนุญาต ในขณะที่ผู้ซื้อก็ไม่อาจอ้างการซื้อขายเข้าครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดิน ส.ป.ก.ได้ นอกจากนั้นผู้ซื้อและผู้ขายอาจต้องรับโทษอาญาถึงจำคุกด้วย แต่หากมีการเปลี่ยน ส.ป.ก เป็นฉโนดที่ดินแล้วก็จะสามารถทำได้โดยมีเงื่อนไขเพิ่มเติม

การเปลี่ยน ส.ป.ก. เป็นโฉนดที่ดินคืออะไร?
เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2566 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะประกาศในราชกิจจานุเบกษา อนุญาตให้เปลี่ยนเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 4-01 ทั่วประเทศ 22 ล้านไร่ จำนวน 1,628,520 ราย โดยมีผู้มีสิทธิยื่นคำขอเปลี่ยนโฉนดเอกสารสิทธิรวม 2,205,561 ฉบับ โดยผู้มีสิทธิ์ได้รับการเปลี่ยน ส.ป.ก เป็นฉโนดที่ดิน โดยการเปลี่ยนสำนักงานที่ดินแห่งชาติ (ส.ป.ก.) เป็นโฉนดที่ดินเกิดขึ้นตามมติหรือมาตรการของคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (คปก.) ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับสิทธิในที่ดินของเกษตรกรจากเอกสารสิทธิ์ที่ดิน 4-01 (ส.ป.ก.4-01) ขึ้นเป็นโฉนดที่ดิน โดยมีวิธีและเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในกระบวนการนั้น ๆ ตามกฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม โดยเกษตรกรที่ถือเอกสารสิทธิ์ สปก. อยู่แล้ว และยังใช้ประโยชน์ในพื้นที่นั้น ต่อเนื่องมา 10 ปีขึ้นไป จะได้รับการเปลี่ยนเป็นโฉนดที่ดิน ภายในระยะเวลา 2 ปี โดยได้รับสิทธิ์ตามเอกสารสิทธิ์ที่ตนถืออยู่ แต่จะยังไม่ซื้อขายที่ดินดังกล่าวได้ในระยะเวลา 5 ปีจากวันที่ได้รับโฉนด

เกษตรกรกลุ่มใดได้รับสิทธิ์การเปลี่ยน ส.ป.ก เป็นฉโนดที่ดิน?
ผู้มีสิทธิได้รับการจัดการที่ดิน ส.ป.ก มี 3 ประเภท

เกษตรกร
เป็นผู้ประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลักอยู่แล้ว โดยใช้เวลาส่วนใหญ่ในรอบปี เพื่อประกอบเกษตรกรรมแห่งท้องถิ่นนั้น

ประสงค์จะประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลัก
– ผู้ยากจน มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาท/คน/ปี
– จบการศึกษาทางเกษตรกรรม ไม่ต่ำกว่าระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพหรือเทียบเท่า
– เป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของผู้ประกอบอาชีพเกษตรกรรม

สถาบันเกษตรกร
– กลุ่มเกษตรกร
– สหกรณ์การเกษตร
– ชุมชนสหกรณ์การเกษตรตามกฎหมายว่าด้วยสหกรณ์

คุณสมบัติผู้ได้รับการจัดที่ดินซึ่งเป็นเกษตรกรที่ถือครอง ส.ป.ก.4-01 จะต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้
มีสัญชาติไทย
บรรลุนิติภาวะ หรือเป็นหัวหน้าครอบครัว
ประพฤติดี ซื่อสัตย์สุจริต
ร่างกายสมบูรณ์ ขยันขันแข็ง
ไม่มีที่ดินหรือมีที่ดินเพียงเล็กน้อย ไม่เพียงพอ
ไม่เป็นคนวิกลจริต หรือจิตฟั่นเฟือน
ยินยอมปฏิบัติตามระเบียบของ ส.ป.ก.
หลังจากการเปลี่ยน ส.ป.ก เป็นฉโนดที่ดินสามารถซื้อขายได้หรืไม่?
การเปลี่ยนเป็นโฉนดที่ดิน จะยังไม่สามารถซื้อขายที่ดินดังกล่าวได้ในระยะเวลา 5 ปีจากวันที่ได้รับโฉนด

กรณีที่มีความจำเป็นในการกู้ยืม (การจำนอง) หรือจำเป็นจะต้องขายที่ดินที่ได้รับโฉนดนั้นก่อนเวลา 5 ปี ให้ดำเนินการผ่านธนาคารที่ดิน (ที่จะจัดตั้งขึ้น) โดยธนาคารที่ดินจะคิดราคาที่ดินตามราคาประเมินของที่ดินที่มีโฉนด เกษตรกรที่ยังไม่ได้เป็นผู้ถือเอกสารสิทธิ์ในที่ดิน ส.ป.ก. (หรือเป็น ผู้ซื้อ/เปลี่ยนมือที่ดิน ส.ป.ก.) เกษตรกรจะได้รับการเปลี่ยนเป็นโฉนดที่ดิน หาก (ก) เกษตรกรมีการใช้ประโยชน์ที่ดินในการทำการเกษตรต่อเนื่องมา 10 ปีขึ้นไป และ (ข) มีเอกสารหรือพยานการทำข้อตกลง/การยินยอมจากผู้ที่มีชื่อในเอกสารสิทธิ์ ส.ป.ก. รวมถึง (ค) เกษตรกรผู้นั้นจะต้องเป็นผู้ที่มีทรัพย์สินไม่เกิน 10 ล้านบาท เกษตรกรดังกล่าวจะสามารถเปลี่ยน ส.ป.ก. เป็นโฉนดได้ไม่เกิน 50 ไร่

วิธีการเปลี่ยน ส.ป.ก เป็นฉโนดที่ดิน ปี 2567
เพื่อเปลี่ยนสิทธิ์ที่ดินจากสำนักงานที่ดินแห่งชาติ (ส.ป.ก.) เป็นโฉนดที่ดินในปี 2566 ตามมติของคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (คปก.) หากมีคุณสมบัติตรงตามที่กำหนด สามารถยื่นคำร้องเพื่อขอรับการจัดที่ดิน ณ สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) จังหวัด โดยให้จัดเตรียมเอกสารและหลักฐาน ได้แก่ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน, สำเนาทะเบียนบ้าน และหลักฐานการมีที่ดิน (ถ้ามี) เพื่อให้ ส.ป.ก. จังหวัด ตรวจสอบคุณสมบัติและดำเนินการจัดหาที่ดิน และจัดที่ดิน ส.ป.ก. ต่อไป หรือหากต้องการทำผ่านทางออนไลน์ท่านสามารถทำได้ตามขั้นตอน ดังนี้

ดาวน์โหลดแอป "SmartLands" หรือเข้าไปที่เว็บไซต์ dol.go.th บนโทรศัพท์ที่มีอินเตอร์เน็ตและเปิดสัญญาณ GPS โดยจำต้องดำเนินการบริเวณที่ดินของผู้ต้องการเปลี่ยน ส.ป.ก
เลือกเมนู "บอกดิน" และกดปุ่ม "แจ้งตำแหน่งที่ดิน"
รอให้ระบบแสดงค่าพิกัดตำแหน่งที่ดินของท่าน
กรอกข้อมูลเจ้าของที่ดิน เช่น ชื่อ, ที่อยู่, หมายเลขโทรศัพท์ ตามที่ระบบกำลังแสดง
เลือกหลักฐานที่ดินที่มีอยู่กับท่าน เช่น ส.ป.ก., น.ส.3, น.ส.3 ก
หากไม่มีหลักฐานใดๆ ให้เลือก "อื่นๆ" และกดปุ่ม "ส่ง"
รอระบบตรวจสอบและดำเนินการประมวลผล หลังจากนั้นรอรับการแจ้งกลับจากระบบหรือจากกรมที่ดินผ่านทางเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน "SmartLands"
สามารถติดตามสถานะการดำเนินการผ่านทางแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ได้
สรุป
การเปลี่ยน ส.ป.ก. เป็นโฉนดที่ดินเกิดขึ้นตามมติหรือมาตรการของคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (คปก.) เพื่อยกระดับสิทธิในที่ดินของเกษตรกรจากเอกสารสิทธิ์ที่ดิน 4-01 (ส.ป.ก.4-01) เป็นโฉนดที่ดิน ตามกฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม โดยมีเงื่อนไขหลายประการ เช่น การปรับปรุงกฎหมายและกระบวนการในวันที่ 15 ธันวาคม 2566, การออกโฉนดที่ดินฉบับแรกในวันที่ 15 มกราคม 2567, และเงื่อนไขในการซื้อขายที่ดินหลังจากการเปลี่ยนเป็นโฉนด โดยต้องรอถึงระยะเวลา 5 ปี และมีเงื่อนไขในการกู้ยืมหรือขายที่ดินกับธนาคารที่ดิน และมุ่งเน้นการปรับปรุงกฎหมายและอำนวยความสะดวกในกระบวนการ, และวางแผนที่จะแจกโฉนดฉบับแรกในวันที่ 15 มกราคม 2567 ให้กับเกษตรกรทั่วประเทศ และผู้ที่มีสิทธิได้รับการจัดที่ดิน ส.ป.ก. ต้องเป็นเกษตรกรที่ถือครอง ส.ป.ก.4-01, มีคุณสมบัติทั่วไป, และปฏิบัติตามระเบียบของ ส.ป.ก. นั่นเอง

อ้างอิง https://vinemanfence.com/farmer-check-right-alro-to-title-deed/

ruataewada

4 สัตว์เศรษฐกิจมาแรง สร้างรายได้งาม



เพื่อน ๆ รู้หรือไม่? หลังโควิด-19 เทรนด์สัตว์เศรษฐกิจมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก เพราะราคาตลาดของเนื้อสัตว์ที่เราบริโภคกันปกติ อย่างหมู ไก่ เนื้อวัว มีราคาสูงขึ้นจากการระบาดของโรคอหิวาต์ แอฟริกา ใน สุกร หรือ African Swine Fever(AFS) ที่ระบาดไปทั่วทุกมุมโลก ทำให้ตลาดต้องการเนื้อไก่ และเนื้อวัวจำนวนมากทำให้ราคาสูงขึ้นตามไปด้วย

 

สำหรับมือใหม่ที่ต้องการให้มาเลี้ยงสุกรที่เป็นสัตว์เศรษฐกิจ ควรรู้! ยังมีสัตว์เศรษฐกิจมาแรงอื่นๆ ในปี 2023 ที่สร้างรายได้มากกว่าสุกร มีอะไรบ้าง? เราจะมาหาคำตอบกันในบทความนี้ครับ

ปูนา สัตว์เศรษฐกิจคู่บ้านคู่เมืองไทย เลี้ยงได้ทุกภาค
 
ทำไมปูนาถึงกลายเป็นสัตว์เศรษฐกิจ
ปูนา เป็นสัตว์ที่อยู่คู่บ้านคู่เมืองคนไทยมาอย่างยาว และพบได้ทั่วทุกภูมิภาคของไทย มักอาศัยอยู่ตามคันนา แต่ปัจจุบันปริมาณของปูนาลดลง จากการใช้สารเคมีเพื่อการเกษตร ทำให้ปูนาขาดแคลนและมีราคาสูงอยู่ช่วงหนึ่ง จนต้องมีการทำฟาร์มไว้เพื่อจำหน่ายและกลายเป็นสัตว์เศรษฐกิจของไทย

เคล็ดลับวิธีการเลี้ยงปูนา
โดยปกติทั่วไป ปูนาเป็นสัตว์ที่มีนิสัยขี้หงุดหงิด อารมณ์ร้อน หากอยู่ในพื้นที่ที่ไม่เหมาะสมกับตัวเอง จะเริ่มทำร้ายตัวเองด้วยการหักแขน หักขาตัวเองทิ้ง การเลี้ยงปูนาจึงต้องเลี้ยงในบ่อดินที่คล้ายคลึงกับสภาพแวดล้อมเดิม เพื่อคลายความเครียด และในบ่อดินยังมีแร่ธาตุช่วยให้ปูแข็งแรง สามารถฟื้นตัวได้ดี นอกจากนี้ควรหมั่นเอาใจใส่ และสังเกตพฤติกรรมปูนาบ่อยๆ เพื่อคำนึงถึงสภาพแวดล้อม อาหาร อารมณ์ เพื่อให้ปูนาเจริญเติบโตได้ดีอยู่เสมอ

นอกจากนี้ ควรให้ความสำคัญกับอาหาร ซึ่งสามารถใช้อาหารเม็ดปลาดุก อาหารกบ หรือข้าวสวยเป็นอาหารมื้อหลัก งดให้อาหารที่มันๆ เพราะจะทำให้น้ำเสียงาน และเสริมด้วยอาหารเสริม เช่น แหนแดง จอก และสาหร่าย เป็นต้น

ราคาขายของปูนา
กิโลกรัมละ 120 บาทโดยประมาณ


กวางรูซ่า สัตว์เศรษฐกิจประโยชน์หลากหลาย
 
ทำไมกวางรูซ่าถึงกลายเป็นสัตว์เศรษฐกิจ
กวางรูซ่า เป็นสัตว์เศรษฐกิจที่มีประโยชน์หลากหลาย และสามารถนำทุกส่วนมาใช้ประโยชน์ได้ ทั้งเนื้อที่แสนอร่อยแถมยังไขมันต่ำ หนังที่เหมาะกับการทำเครื่องหนังและเครื่องประดับ เขากวางอ่อนที่เหมาะสำหรับการแปรรูปเป็นอาหารเสริมได้ ทำให้กวางรูซ่ากลายเป็นสัตว์เศรษฐกิจที่มาแรงของไทย เกษตรกรบางท่านสามารถสร้างรายได้สูงสุด 6,000,000 บาทต่อปีเลยทีเดียว

เคล็ดลับวิธีการเลี้ยงกวางรูซ่า
กวางรูซ่า เป็นสัตว์กินหญ้าเช่นเดียวกับวัว แต่ต่างกันตรงที่ กวางรูซ่าตัวเล็ก ใช้พื้นที่การเลี้ยงน้อยกว่า ต้านทานโรคได้ดี ไม่ป่วยง่าย และกินน้อยเพียงแค่ตัดหญ้าขนให้ทานก็สามารถเลี้ยงให้โตได้ เสริมด้วยแร่ธาตุ อาหารเสริมแบบเดียวกับวัวก็เพียงพอแล้ว งดการเสริมอาหารสำเร็จรูปเพราะจะทำให้กวางตัวอ้วนจนเกินไป เป็นอุปสรรคต่อการผสมพันธ์ุ เพียงแค่ปลูกหญ้าขนที่เจริญเติบโตง่ายและขึ้นโดยทั่วไปก็ให้โปรตีนที่เพียงพอต่อกวางได้แล้ว

ราคาขายของกวางรูซ่า
ส่วนเนื้อกวาง ราคากิโลกรัมละ 200-500 บาทโดยประมาณ, เขากวางอ่อน ราคา 5,000-10,000 บาทโดยประมาณ


จระเข้ สัตว์เศรษฐกิจสายแฟชั่น
 

ทำไมจระเข้ถึงกลายเป็นสัตว์เศรษฐกิจ
ทุกคนคนคุ้นชินกันอยู่นานหลายปีแล้วว่า จระเข้ เป็นสัตว์ที่กินได้ และหนังของมันก็เอาไปทำกระเป๋าได้ แต่ปี 2023 นี้ เนื้อจระเข้ถูกพูดถึงเป็นอย่างมากว่า ไขมันน้อย รสชาติดี และมีเนื้อสัมผัสคล้ายๆ กับอกไก่ ทำให้เนื้อจระเข้เป็นที่แนะนำและน่าสนใจเป็นพิเศษ อีกทั้ง ส่วนของหนังจระเข้ก็สามารถนำไปทำเครื่องหนังส่งออกต่างประเทศได้อย่างดี โดยจระเข้ที่นำมาเลี้ยงเป็นสัตว์เศรษฐกิจมีอยู่ 2 สายพันธุ์ด้วยกัน ได้แก่ จระเข้น้ำจืดหรือจระเข้พันธุ์ไทย และจระเข้น้ำเค็ม

เคล็ดลับวิธีการเลี้ยงจระเข้
การเลี้ยงจระเข้แน่นอนว่าควรจะมีบ่อเลี้ยงที่ปิดมิดชิดเพื่อป้องกันการหลุดลอดของจระเข้ออกสู่ธรรมชาติ ซึ่งมีความอันตรายสูง โดยพื้นที่รอบบ่อควรจะมีเสียงรบกวนน้อยที่สุด ไม่พลุกพล่านจนเกินไป มีแสงแดดส่องถึง และมีอาหารที่เพียงพอต่อจระเข้ตลอดเวลา การให้อาหารจระเข้ควรให้ 2-3 วันต่อครั้งด้วยเนื้อไก่สดติดกระดูกสำหรับจระเข้อายุไม่เกิน 1 ปี แต่หากเป็นสัตว์ชนิดอื่นควรให้สำหรับจระเข้ที่มีอายุมากกว่า 1 ปีไปแล้ว

การเตรียมบ่อจระเข้ควรเป็นบ่อแถวคู่ลักษณะ บกครึ่งหนึ่ง และน้ำครึ่งหนึ่ง ความยาวประมาณ 1.80 เมตร กว้าง 1 เมตร สูง 1.50 เมตร และส่วนที่เป็นบกสูง 50 เมตร พร้อมขัดมันพื้นบ่อและรอบบ่อเพื่อป้องกันลูกจระเข้ปีน และวางท่อระบายน้ำสองอัน สำหรับใต้น้ำควรใช้ท่อพีวีซี่ 2.5 – 3 นิ้ว และท่อบนน้ำใช้ควบคุมประมาณน้ำไม่ให้มากเกินไป ป้องกันน้ำท่วมนั่นเอง

การเลี้ยงจระเข้นั้น แน่นอนว่ามีต้นทุนสูงเพราะเนื้อไก่สดมีราคาสูง แต่เกษตรกรที่ต้องการประหยัดต้นทุนสามารถเลี้ยงลูกกบไว้สำหรับเป็นอาหารจระเข้เพื่อลดต้นทุนค่าอาหาร และหากมีพื้นที่ก็ควรจะเลี้ยงกบเพาะพันธุ์ควบคู่ไว้เพื่อเป็นอาหารให้จระเข้ได้อีกด้วย

ราคาขายของจระเข้
ส่วนเนื้อกวาง ราคากิโลกรัมละ 180 บาทโดยประมาณ,  ส่วนบ้องตัน ราคา 240  บาทโดยประมาณ, จระเข้ทั้งตัวราคาอยู่ที่ 900-1,500 บาทโดยประมาณ

สรุป
ในปี 2023 นี้ สัตวเศรษฐกิจหลายชนิดไม่คุ้นหูคุ้นตาเรามาก่อน หรือบางตัวก็เคยได้ยินชื่อมาบ้าง แต่เรียกได้เลยว่า 4 สัตว์เศรษฐกิจมาแรงที่เรานะนำมาในวันนี้ ทั้งปูนา กวางรูซ่า จระเข้ และกระต่าย ต่างสร้างรายได้งามให้กับเกษตรกรได้อย่างแน่นอน หลายๆ ท่านคงได้ไอเดียในการทำปศุสัตว์ที่ตอบโจทย์ตลาด แต่อย่าลืมที่จะศึกษาเทรนด์ตลาด และอัพเดตข่าวสารความรู้ใหม่ๆ อยู่เสมอนะครับ

ที่มาhttps://vinemanfence.com/4-popular-livestocks-good-income/
https://www.technologychaoban.com/livestock-technology/article_247855
https://www.rakbankerd.com/agriculture/page.php?id=317&s=tblheight
https://www.palangkaset.com/%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%A7%E0%B9%8C%E0%B8%9A%E0%B8%81/%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B9%89%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B8%8B%E0%B9%88%E0%B8%B2-1/
https://www.technologychaoban.com/bullet-news-today/article_242362

ruataewada

**เลี้ยงกุ้ง อาชีพหลักที่สร้างรายได้มั่นคง**

กุ้งเป็นสัตว์น้ำที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นสัตว์ที่เลี้ยงง่าย ดูแลไม่ยุ่งยาก และสามารถให้ผลผลิตได้สูง เลี้ยงกุ้งเป็นอาชีพหลักที่สร้างรายได้มั่นคงให้กับเกษตรกรได้เป็นอย่างดี

**ประเภทของกุ้ง**

กุ้งมีหลากหลายสายพันธุ์ให้เลือกเลี้ยง แต่ละสายพันธุ์มีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป ที่นิยมเลี้ยงกัน ได้แก่

* **กุ้งกุลาดำ** เป็นกุ้งที่เลี้ยงกันทั่วไปในประเทศไทย ทนทานต่อสภาพอากาศและโรคภัยไข้เจ็บ
* **กุ้งขาวแวนนาไม** เป็นกุ้งที่เลี้ยงกันมากในต่างประเทศ โตเร็ว ให้ผลผลิตสูง
* **กุ้งก้ามกราม** เป็นกุ้งที่มีรสชาติดี นิยมบริโภคกันมาก

**การเตรียมการเลี้ยงกุ้ง**

ก่อนเลี้ยงกุ้งควรเตรียมการดังนี้

* **เลือกพื้นที่เลี้ยง** พื้นที่เลี้ยงควรอยู่ใกล้แหล่งน้ำ มีน้ำไหลผ่าน มีระบบระบายน้ำที่ดี
* **สร้างบ่อกุ้ง** บ่อกุ้งควรมีขนาดใหญ่พอสำหรับจำนวนกุ้งที่จะเลี้ยง บ่อควรมีหลังคาเพื่อป้องกันแดดและฝน
* **เตรียมอุปกรณ์เลี้ยงกุ้ง** อุปกรณ์เลี้ยงกุ้ง ได้แก่ อาหารกุ้ง น้ำดื่มกุ้ง กรงเลี้ยงกุ้ง

**การดูแลรักษากุ้ง**

การดูแลรักษากุ้งสามารถทำได้ดังนี้

* **ให้อาหารกุ้ง** ควรให้อาหารกุ้งอย่างสม่ำเสมอ อาหารกุ้งควรมีครบถ้วนทั้งโปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน วิตามิน และเกลือแร่
* **ให้น้ำดื่มกุ้ง** ควรให้น้ำดื่มกุ้งอย่างสะอาดและเพียงพอ
* **ควบคุมอุณหภูมิและคุณภาพน้ำ** อุณหภูมิของน้ำที่เหมาะสมในการเลี้ยงกุ้งคือ 25-30 องศาเซลเซียส คุณภาพน้ำควรมีค่า pH ประมาณ 7.5-8.5
* **ป้องกันโรคกุ้ง** ควรหมั่นตรวจสุขภาพกุ้งอย่างสม่ำเสมอ และป้องกันโรคกุ้งตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่

**เคล็ดลับการเลี้ยงกุ้ง**

* เลือกสายพันธุ์กุ้งที่เหมาะกับความต้องการของตนเอง
* เตรียมการเลี้ยงกุ้งให้พร้อมก่อนเลี้ยง
* ดูแลรักษากุ้งอย่างสม่ำเสมอ

การเลี้ยงกุ้งเป็นอาชีพหลักที่สร้างรายได้มั่นคงให้กับเกษตรกรได้เป็นอย่างดี เพียงศึกษาข้อมูลและเตรียมการอย่างรอบคอบก็สามารถเลี้ยงกุ้งให้ประสบความสำเร็จ

**ข้อดีของการเลี้ยงกุ้ง**

* เลี้ยงง่าย ดูแลไม่ยุ่งยาก
* สามารถให้ผลผลิตได้สูง
* ตลาดมีความต้องการสูง

**ข้อเสียของการเลี้ยงกุ้ง**

* ลงทุนเริ่มต้นค่อนข้างสูง
* เสี่ยงต่อโรคระบาด

**ช่องทางการจำหน่ายผลผลิตกุ้ง**

* ขายส่งให้กับพ่อค้าคนกลาง
* ขายปลีกให้กับผู้บริโภคโดยตรง
* ส่งออกไปยังต่างประเทศ

การเลี้ยงกุ้งเป็นอาชีพหลักที่สร้างรายได้มั่นคงให้กับเกษตรกรได้เป็นอย่างดี เพียงศึกษาข้อมูลและเตรียมการอย่างรอบคอบก็สามารถเลี้ยงกุ้งให้ประสบความสำเร็จ
ลวดหนาม
รั้วลวดหนาม
รั้วตาข่าย
ลวดหนามกันสนิม

ruataewada

**ปลูกพืชในน้ำ ง่าย สะดวก ปลอดสารพิษ**

การปลูกพืชในน้ำเป็นเทคนิคการปลูกพืชโดยไม่ใช้ดิน โดยนำรากของพืชมาแช่อยู่ในน้ำที่ผสมสารละลายอาหารพืช การปลูกพืชในน้ำมีข้อดีหลายประการ ดังนี้

* **ประหยัดพื้นที่** การปลูกพืชในน้ำไม่จำเป็นต้องใช้พื้นที่มาก สามารถปลูกได้ในพื้นที่จำกัด เช่น บนระเบียง บนโต๊ะ หรือแม้แต่ในห้องน้ำ
* **สะดวกในการดูแลรักษา** ไม่จำเป็นต้องพรวนดินหรือกำจัดวัชพืช เพียงแค่เติมน้ำและสารละลายอาหารพืชให้เพียงพอ
* **ปลอดสารพิษ** การปลูกพืชในน้ำไม่ใช้สารเคมีในการปลูก จึงปลอดภัยต่อผู้บริโภค

**วิธีการปลูกพืชในน้ำ**

การปลูกพืชในน้ำสามารถทำได้หลายวิธี ที่นิยมกัน ได้แก่

* **การปลูกพืชในแก้วน้ำ** เป็นวิธีที่ง่ายที่สุด เพียงแค่นำต้นกล้าหรือเมล็ดพืชมาแช่ไว้ในแก้วน้ำที่ผสมสารละลายอาหารพืช
* **การปลูกพืชในกระถางไฮโดรโปนิกส์** เป็นวิธีที่สะดวกและสวยงาม กระถางไฮโดรโปนิกส์มีหลายรูปแบบให้เลือก วัสดุที่ใช้ปลูกพืชในกระถางไฮโดรโปนิกส์ ได้แก่ หินภูเขาไฟ หินกรวด หินโรย หรือวัสดุสังเคราะห์
* **การปลูกพืชในระบบไฮโดรโปนิกส์** เป็นระบบการปลูกพืชในน้ำที่มีอุปกรณ์และการควบคุมที่ซับซ้อนกว่าการปลูกพืชในแก้วน้ำหรือกระถางไฮโดรโปนิกส์ ระบบไฮโดรโปนิกส์มีหลายประเภทให้เลือก ที่นิยมกัน ได้แก่ ระบบหยด ระบบน้ำวน ระบบน้ำนิ่ง เป็นต้น

**พืชที่ปลูกในน้ำได้**

พืชที่ปลูกในน้ำได้มีหลายชนิด ที่นิยมปลูก ได้แก่

* **ผักใบ** เช่น ผักกาดหอม ผักบุ้งจีน ผักชี ต้นหอม คะน้า เป็นต้น
* **ผักผลไม้** เช่น แตงกวา มะเขือเทศ มะเขือยาว เป็นต้น
* **ไม้ประดับ** เช่น เศรษฐีเรือนใน ว่านหางจระเข้ เฟิร์น เป็นต้น

**การดูแลรักษาพืชที่ปลูกในน้ำ**

การดูแลรักษาพืชที่ปลูกในน้ำมีดังนี้

* **เปลี่ยนน้ำ** ควรเปลี่ยนน้ำทุก 2-3 วัน หรือเมื่อน้ำเริ่มมีตะกอน
* **เติมสารละลายอาหารพืช** ควรเติมสารละลายอาหารพืชตามคำแนะนำบนฉลาก
* **แสงแดด** พืชที่ปลูกในน้ำต้องการแสงแดดเพียงพอ ควรวางกระถางหรือแก้วน้ำปลูกพืชในที่ที่มีแสงแดดส่องถึง

การปลูกพืชในน้ำเป็นกิจกรรมที่สามารถทำได้ง่าย ๆ เหมาะสำหรับผู้ที่มีพื้นที่จำกัดหรือต้องการปลูกพืชปลอดสารพิษ การปลูกพืชในน้ำเป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์มากมาย นอกจากจะทำให้เรามีพืชผักสด ๆ ไว้รับประทานแล้ว ยังทำให้เราได้เรียนรู้เกี่ยวกับธรรมชาติและการปลูกพืชอีกด้วย

โปรโมชั่นสำหรับคุณ ลวดหนาม รั้วลวดหนาม
รั้วตาข่าย ลวดหนาม


ruataewada

เปลี่ยน ส.ป.ก. เป็นโฉนด เริ่มวันนี้ เกษตรกร เช็คสิทธิ์-วิธี ด่วน!

รู้หรือไม่? เกษตรกรจำนวนมากขาดเอกสารสิทธิ์หรือโฉนดที่ดินที่ตัวเองใช้ทำมาหากิน และหลายคนกำลังเป็นข้อพิพาทที่ดินกับรัฐ บางกรณียืดเยื้อมาหลายสิบปี และถูกซ้ำเติมโดยนโยบายของรัฐ แม้เกษตรกรจะมีที่ดิน ส.ป.ก ก็ยังไม่มั่นคงในการถือครองเพราะห้ามเปลี่ยนมือซื้อขาย ทำให้เกษตรไม่มีแรงจูงใจในการพัฒนาที่ดินนั่นเอง

แต่มื่อวันที่ 8 ธ.ค. 2566 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม เห็นชอบหลักการแปลงที่ดิน ส.ป.ก. 4-01 เป็นโฉนด ทำให้การเปลี่ยน ส.ป.ก. เป็นฉโนดที่ดิน 2566 ได้รับความสนใจจากเกษตรเกษตรที่ได้รับสิทธิถือครอง ส.ป.ก.4-01 ที่มีอยู่จำนวน 1,628,520 ราย ภายหลัง คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม หรือ คปก. มีมติเห็นชอบหลักการปรับปรุงเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 4-01 เพื่อยกระดับเป็นโฉนดที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ตามกฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม

นโยบายรัฐบาลในการขับเคลื่อนการปรับปรุงหนังสือนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน หรือ ส.ป.ก. 4-0 1 ให้เป็นโฉนดที่ดินเพื่อเกษตรกรรม

เเต่ที่เราจะรู้ว่าการเปลี่ยนโฉนดนั้นมีการเปลี่ยนเเปลงอะไรบ้าง เราต้องมารู้กันก่อนว่า ส.ป.ก คืออะไร ส.ป.ก คือ การปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม หรือที่ดิน ส.ป.ก.4-01 คือที่ดินเพื่อเกษตรกรรมที่รัฐทำการจัดสรรให้แก่เกษตรกรผู้ไม่มีที่ทำกินของตนเอง หรือมีเพียงเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพและสถาบันการเกษตร ซึ่งทางรัฐให้ความช่วยเหลือในการพัฒนาอาชีพเกษตรกรรม ให้มีการใช้ทรัพยากรจากพื้นที่ ผลิตจำหน่ายให้เกิดผลผลิตที่ดี

ผู้ที่ได้รับสิทธิ์การเปลี่ยน ส.ป.ก. เป็นฉโนดที่ดิน 2566
เกษตรกรที่ถือเอกสารสิทธิ์ สปก. อยู่แล้ว และยังใช้ประโยชน์ในพื้นที่นั้น ต่อเนื่องมา 10 ปีขึ้นไป จะได้รับการเปลี่ยนเป็นโฉนดที่ดิน ภายในระยะเวลา 2 ปี
โดยได้รับสิทธิ์ตามเอกสารสิทธิ์ที่ตนถืออยู่ แต่จะยังไม่ซื้อขายที่ดินดังกล่าวได้ในระยะเวลา 5 ปีจากวันที่ได้รับโฉนด
หากในกรณีที่มีความจำเป็นในการกู้ยืม (การจำนอง) หรือจำเป็นจะต้องขายที่ดินที่ได้รับโฉนดนั้นก่อนเวลา 5 ปี ให้ดำเนินการผ่านธนาคารที่ดิน (ที่จะจัดตั้งขึ้น) โดยธนาคารที่ดินจะคิดราคาที่ดินตามราคาประเมินของที่ดินที่มีโฉนด
ส่วนเกษตรกรที่ยังไม่ได้เป็นผู้ถือเอกสารสิทธิ์ในที่ดิน สปก. (หรือเป็นผู้ซื้อ/เปลี่ยนมือที่ดิน สปก. นั้น) เกษตรกรจะได้รับการเปลี่ยนเป็นโฉนดที่ดิน หาก (ก) เกษตรกรมีการใช้ประโยชน์ที่ดินในการทำการเกษตรต่อเนื่องมา 10 ปีขึ้นไป และ (ข) มีเอกสารหรือพยานการทำข้อตกลง/การยินยอมจากผู้ที่มีชื่อในเอกสารสิทธิ์ สปก. รวมถึง (ค) เกษตรกรผู้นั้นจะต้องเป็นผู้ที่มีทรัพย์สินไม่เกิน 10 ล้านบาท เกษตรกรดังกล่าวจะสามารถเปลี่ยน สปก. เป็นโฉนดได้ไม่เกิน 50 ไร่

ระเบียบฯ การเปลี่ยน ส.ป.ก. เป็นฉโนดที่ดิน 2566
เกษตรกรหรือสถาบันเกษตรกรผู้ได้รับมอบที่ดินให้เข้าทำประโยชน์ในที่ดินมีหน้าที่ปฏิบัติ ดังต่อไปนี้

(1) ต้องทำประโยชน์ในที่ดินด้วยตนเองเต็มความสามารถ และไม่นำที่ดินนั้นทั้งหมดหรือบางส่วนไปให้บุคคลอื่นไม่ว่าจะโดยการขาย ให้เช่า หรือเข้าทำประโยชน์ หรือโดยพฤติกรรมใดๆ ที่แสดงให้เห็นในลักษณะนั้น เว้นแต่ได้รับความยินยอมจาก ส.ป.ก. ทั้งนี้ ไม่รวมถึงกรณีการโอนให้เป็นไปตามที่ระเบียบคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการคัดเลือกและจัดที่ดินให้แก่เกษตรกร การโอน หรือตกทอดทางมรดกสิทธิการเช่าหรือเช่าซื้อและการจัดการทรัพย์สินและหนี้สินของเกษตรกรผู้ได้รับที่ดิน พ.ศ. 2564 กำหนด
ห้ามมิให้ผู้ได้รับโฉนดเพื่อการเกษตรเปลี่ยนมือ สละสิทธิ หรือกระทำการอื่นใด เพื่อให้บุคคลอื่นได้รับสิทธิในโฉนดเพื่อการเกษตรแทนตน ภายในสองปี นับแต่วันที่ออกโฉนดเพื่อการเกษตร เว้นแต่เป็นการจัดที่ดินแทนที่แก่คู่สมรส บุตร เครือญาติหรือทายาท

(2) ยินยอมทำสัญญาเช่า หรือสัญญาเช่าซื้อ หรือสัญญาจัดให้ โดยมีค่าชดเชยและต้องปฏิบัติตามสัญญาดังกล่าว
(3) ไม่เปลี่ยนแปลงสภาพที่ดิน จนเป็นเหตุให้ที่ดินเสื่อมสภาพความเหมาะสมแก่การประกอบเกษตรกรรม
(4) ไม่ขุดบ่อเพื่อการเกษตรกรรมเกินร้อยละห้าของเนื้อที่ที่ได้รับมอบ
(5) ไม่ปลูกสร้างสิ่งก่อสร้างใด ๆ เว้นแต่การปลูกสร้างตามสมควรสำหรับโรงเรือนที่อยู่อาศัยยุ้งฉาง หรือสิ่งก่อสร้างอื่น ๆ ที่ใช้ประโยชน์เพื่อการเกษตรของเกษตรกรหรือสถาบันเกษตรกรนั้น
(6) ดูแลรักษาหมุดหลักฐานของ ส.ป.ก. และหลักเขตที่ดินในที่ดินที่ได้รับมอบมิให้เกิดชำรุดเสียหายหรือเคลื่อนย้ายไปจากตำแหน่งเดิม
(7) ไม่กระทำการใดๆ ในลักษณะที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่สิ่งก่อสร้างในโครงการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม การทำประโยชน์ในที่ดินของเกษตรกรอื่นและสภาพแวดล้อม
(8) ปฏิบัติตามมติของคณะกรรมการ คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัด รวมทั้งคำสั่งของเลขาธิการหรือผู้ซึ่งเลขาธิการมอบหมาย
(9) ปฏิบัติตามสัญญากู้ยืมที่ทำกับ ส.ป.ก. และปฏิบัติตามพันธกรณีที่มีอยู่กับสถาบันการเงินหรือบุคคลที่ดำเนินงานร่วมกับ ส.ป.ก

วิธีการเปลี่ยน ส.ป.ก เป็นฉโนดที่ดิน ปี 2566
ดาวน์โหลดแอป "SmartLands" หรือเข้าไปที่เว็บไซต์ dol.go.th บนโทรศัพท์ที่มีอินเตอร์เน็ตและเปิดสัญญาณ GPS โดยจำต้องดำเนินการบริเวณที่ดินของผู้ต้องการเปลี่ยน ส.ป.ก
เลือกเมนู "บอกดิน" และกดปุ่ม "แจ้งตำแหน่งที่ดิน"
รอให้ระบบแสดงค่าพิกัดตำแหน่งที่ดินของท่าน
กรอกข้อมูลเจ้าของที่ดิน เช่น ชื่อ, ที่อยู่, หมายเลขโทรศัพท์ ตามที่ระบบกำลังแสดง
เลือกหลักฐานที่ดินที่มีอยู่กับท่าน เช่น ส.ป.ก., น.ส.3, น.ส.3 ก
หากไม่มีหลักฐานใดๆ ให้เลือก "อื่นๆ" และกดปุ่ม "ส่ง"
รอระบบตรวจสอบและดำเนินการประมวลผล หลังจากนั้นรอรับการแจ้งกลับจากระบบหรือจากกรมที่ดินผ่านทางเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน "SmartLands"
สามารถติดตามสถานะการดำเนินการผ่านทางแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ได้

สรุป
การเปลี่ยนส.ป.ก.เป็นโฉนดที่ดินในปี 2566 ต้องเป็นเกษตรกรที่ใช้ประโยชน์ที่ดินต่อเนื่องมา 10 ปี ไม่ปล่อยให้ที่ดิน รกร้างว่างเปล่า ต้องมีการทำเกษตร หรือล้อมรั้ว เเบ่งที่ไว้อย่างชัดเจน การที่ล้อมรั้วตาข่าย หรือ ล้อมรั้วลวดหนาม จะเป็นตัวช่วยในการกำหนดขอบเขตของที่ดิน ไม่ให้เสียประโยชน์พื้นที่นั้นไป , ได้รับสิทธิ์ในระยะ 2 ปี, แต่ไม่สามารถซื้อขายที่ดินที่ได้รับโฉนดได้ภายใน 5 ปี, และกรณีจำเป็นในการกู้ยืมหรือขายที่ดินต้องผ่านธนาคารที่ดินที่จัดตั้งขึ้น เกษตรกรที่ยังไม่ถือ ส.ป.ก. สามารถได้รับการเปลี่ยนเป็นโฉนดที่ดิน หากใช้ประโยชน์ที่ดินในการทำการเกษตรต่อเนื่องมา 10 ปี, มีเอกสารหรือพยานการทำข้อตกลง/การยินยอม, เป็นเจ้าของทรัพย์สินไม่เกิน 10 ล้านบาท, และสามารถเปลี่ยนส.ป.ก.เป็นโฉนดได้ไม่เกิน 50 ไร่

ขอบคุณที่มาจาก https://www.ruataewada.com/change-alro-to-title-deed-how-and-check-right/

ruataewada


เกษตรกรต้องเช็ค! การเปลี่ยน ส.ป.ก. เป็นโฉนดที่ดิน 2567 กลุ่มไหนได้รับสิทธิ์บ้าง

เกษตรกรที่ได้รับสิทธิถือครอง ส.ป.ก.4-01 จำนวน 1,628,520 ราย ต้องรู้! เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2566 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะประกาศในราชกิจจานุเบกษา อนุญาตให้เปลี่ยนเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 4-01 ทั่วประเทศ 22 ล้านไร่ เป็นฉโนดที่ดินฯ ภายในระยะเวลา 2 ปี หากยังไม่ทราบถึงข้อกำหนด วันนี้ เราจะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับที่ดิน ส.ป.ก. และเงื่อนไขการเปลี่ยนเป็นฉโนดกันในบทความนี้ครับ...

ที่ดิน ส.ป.ก. คืออะไร?
ส.ป.ก. ย่อมาจาก "สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม" หมายถึง  ที่ดินของสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมให้ที่ดินแก่เกษตรกรที่ไม่มีที่ดินทำกินเข้ามาทำประโยชน์ โดยทำการเกษตรในที่ดินนั้นๆ

ที่ดิน ส.ป.ก. หรือ ที่ดิน ส.ป.ก. 4-01 คือ เอกสารแสดงการครอบครองที่ดินที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ออกให้กับประชาชนเข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน ตามพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2518 โดยมีหลักว่า ที่ดินในเขตปฏิรูปนั้นใช้ทำเกษตรกรรมได้อย่างเดียวเท่านั้น ทำประโยชน์อย่างอื่นไม่ได้ และผู้ครอบครองทำประโยชน์ในที่ดิน ส.ป.ก. 4-01 จะต้องมีฐานะยากจน

ที่ดิน ส.ป.ก. ซื้อขายได้หรือไม่?
ตามพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2518 ตามมาตรา 39 ระบุว่า ที่ดินที่บุคคลได้รับสิทธิโดยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมจะทำการแบ่งแยก หรือโอนสิทธิในที่ดินนั้นไปยังผู้อื่นมิได้ เว้นแต่เป็นการตกทอดทางมรดกแก่ทายาทโดยธรรม หรือโอนไปยังสถาบันเกษตรกร หรือ ส.ป.ก. เพื่อประโยชน์ในการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง หากมีการซื้อขายเปลี่ยนมือที่ดิน ส.ป.ก. กฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมได้กำหนดมาตรการหรือโทษตามกฎหมาย โดยผู้ขายต้องเสียสิทธิทำกินในที่ดินที่ได้รับอนุญาต ในขณะที่ผู้ซื้อก็ไม่อาจอ้างการซื้อขายเข้าครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดิน ส.ป.ก.ได้ นอกจากนั้นผู้ซื้อและผู้ขายอาจต้องรับโทษอาญาถึงจำคุกด้วย แต่หากมีการเปลี่ยน ส.ป.ก เป็นฉโนดที่ดินแล้วก็จะสามารถทำได้โดยมีเงื่อนไขเพิ่มเติม

การเปลี่ยน ส.ป.ก. เป็นโฉนดที่ดินคืออะไร?
เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2566 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะประกาศในราชกิจจานุเบกษา อนุญาตให้เปลี่ยนเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 4-01 ทั่วประเทศ 22 ล้านไร่ จำนวน 1,628,520 ราย โดยมีผู้มีสิทธิยื่นคำขอเปลี่ยนโฉนดเอกสารสิทธิรวม 2,205,561 ฉบับ โดยผู้มีสิทธิ์ได้รับการเปลี่ยน ส.ป.ก เป็นฉโนดที่ดิน โดยการเปลี่ยนสำนักงานที่ดินแห่งชาติ (ส.ป.ก.) เป็นโฉนดที่ดินเกิดขึ้นตามมติหรือมาตรการของคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (คปก.) ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับสิทธิในที่ดินของเกษตรกรจากเอกสารสิทธิ์ที่ดิน 4-01 (ส.ป.ก.4-01) ขึ้นเป็นโฉนดที่ดิน โดยมีวิธีและเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในกระบวนการนั้น ๆ ตามกฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม โดยเกษตรกรที่ถือเอกสารสิทธิ์ สปก. อยู่แล้ว และยังใช้ประโยชน์ในพื้นที่นั้น ต่อเนื่องมา 10 ปีขึ้นไป จะได้รับการเปลี่ยนเป็นโฉนดที่ดิน ภายในระยะเวลา 2 ปี โดยได้รับสิทธิ์ตามเอกสารสิทธิ์ที่ตนถืออยู่ แต่จะยังไม่ซื้อขายที่ดินดังกล่าวได้ในระยะเวลา 5 ปีจากวันที่ได้รับโฉนด

เกษตรกรกลุ่มใดได้รับสิทธิ์การเปลี่ยน ส.ป.ก เป็นฉโนดที่ดิน?
ผู้มีสิทธิได้รับการจัดการที่ดิน ส.ป.ก มี 3 ประเภท

เกษตรกร
เป็นผู้ประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลักอยู่แล้ว โดยใช้เวลาส่วนใหญ่ในรอบปี เพื่อประกอบเกษตรกรรมแห่งท้องถิ่นนั้น

ประสงค์จะประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลัก
– ผู้ยากจน มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาท/คน/ปี
– จบการศึกษาทางเกษตรกรรม ไม่ต่ำกว่าระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพหรือเทียบเท่า
– เป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของผู้ประกอบอาชีพเกษตรกรรม

สถาบันเกษตรกร
– กลุ่มเกษตรกร
– สหกรณ์การเกษตร
– ชุมชนสหกรณ์การเกษตรตามกฎหมายว่าด้วยสหกรณ์

คุณสมบัติผู้ได้รับการจัดที่ดินซึ่งเป็นเกษตรกรที่ถือครอง ส.ป.ก.4-01 จะต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้
มีสัญชาติไทย
บรรลุนิติภาวะ หรือเป็นหัวหน้าครอบครัว
ประพฤติดี ซื่อสัตย์สุจริต
ร่างกายสมบูรณ์ ขยันขันแข็ง
ไม่มีที่ดินหรือมีที่ดินเพียงเล็กน้อย ไม่เพียงพอ
ไม่เป็นคนวิกลจริต หรือจิตฟั่นเฟือน
ยินยอมปฏิบัติตามระเบียบของ ส.ป.ก.
หลังจากการเปลี่ยน ส.ป.ก เป็นฉโนดที่ดินสามารถซื้อขายได้หรืไม่?
การเปลี่ยนเป็นโฉนดที่ดิน จะยังไม่สามารถซื้อขายที่ดินดังกล่าวได้ในระยะเวลา 5 ปีจากวันที่ได้รับโฉนด

กรณีที่มีความจำเป็นในการกู้ยืม (การจำนอง) หรือจำเป็นจะต้องขายที่ดินที่ได้รับโฉนดนั้นก่อนเวลา 5 ปี ให้ดำเนินการผ่านธนาคารที่ดิน (ที่จะจัดตั้งขึ้น) โดยธนาคารที่ดินจะคิดราคาที่ดินตามราคาประเมินของที่ดินที่มีโฉนด เกษตรกรที่ยังไม่ได้เป็นผู้ถือเอกสารสิทธิ์ในที่ดิน ส.ป.ก. (หรือเป็น ผู้ซื้อ/เปลี่ยนมือที่ดิน ส.ป.ก.) เกษตรกรจะได้รับการเปลี่ยนเป็นโฉนดที่ดิน หาก (ก) เกษตรกรมีการใช้ประโยชน์ที่ดินในการทำการเกษตรต่อเนื่องมา 10 ปีขึ้นไป และ (ข) มีเอกสารหรือพยานการทำข้อตกลง/การยินยอมจากผู้ที่มีชื่อในเอกสารสิทธิ์ ส.ป.ก. รวมถึง (ค) เกษตรกรผู้นั้นจะต้องเป็นผู้ที่มีทรัพย์สินไม่เกิน 10 ล้านบาท เกษตรกรดังกล่าวจะสามารถเปลี่ยน ส.ป.ก. เป็นโฉนดได้ไม่เกิน 50 ไร่

วิธีการเปลี่ยน ส.ป.ก เป็นฉโนดที่ดิน ปี 2567
เพื่อเปลี่ยนสิทธิ์ที่ดินจากสำนักงานที่ดินแห่งชาติ (ส.ป.ก.) เป็นโฉนดที่ดินในปี 2566 ตามมติของคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (คปก.) หากมีคุณสมบัติตรงตามที่กำหนด สามารถยื่นคำร้องเพื่อขอรับการจัดที่ดิน ณ สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) จังหวัด โดยให้จัดเตรียมเอกสารและหลักฐาน ได้แก่ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน, สำเนาทะเบียนบ้าน และหลักฐานการมีที่ดิน (ถ้ามี) เพื่อให้ ส.ป.ก. จังหวัด ตรวจสอบคุณสมบัติและดำเนินการจัดหาที่ดิน และจัดที่ดิน ส.ป.ก. ต่อไป หรือหากต้องการทำผ่านทางออนไลน์ท่านสามารถทำได้ตามขั้นตอน ดังนี้

ดาวน์โหลดแอป "SmartLands" หรือเข้าไปที่เว็บไซต์ dol.go.th บนโทรศัพท์ที่มีอินเตอร์เน็ตและเปิดสัญญาณ GPS โดยจำต้องดำเนินการบริเวณที่ดินของผู้ต้องการเปลี่ยน ส.ป.ก
เลือกเมนู "บอกดิน" และกดปุ่ม "แจ้งตำแหน่งที่ดิน"
รอให้ระบบแสดงค่าพิกัดตำแหน่งที่ดินของท่าน
กรอกข้อมูลเจ้าของที่ดิน เช่น ชื่อ, ที่อยู่, หมายเลขโทรศัพท์ ตามที่ระบบกำลังแสดง
เลือกหลักฐานที่ดินที่มีอยู่กับท่าน เช่น ส.ป.ก., น.ส.3, น.ส.3 ก
หากไม่มีหลักฐานใดๆ ให้เลือก "อื่นๆ" และกดปุ่ม "ส่ง"
รอระบบตรวจสอบและดำเนินการประมวลผล หลังจากนั้นรอรับการแจ้งกลับจากระบบหรือจากกรมที่ดินผ่านทางเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน "SmartLands"
สามารถติดตามสถานะการดำเนินการผ่านทางแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ได้
สรุป
การเปลี่ยน ส.ป.ก. เป็นโฉนดที่ดินเกิดขึ้นตามมติหรือมาตรการของคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (คปก.) เพื่อยกระดับสิทธิในที่ดินของเกษตรกรจากเอกสารสิทธิ์ที่ดิน 4-01 (ส.ป.ก.4-01) เป็นโฉนดที่ดิน ตามกฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม โดยมีเงื่อนไขหลายประการ เช่น การปรับปรุงกฎหมายและกระบวนการในวันที่ 15 ธันวาคม 2566, การออกโฉนดที่ดินฉบับแรกในวันที่ 15 มกราคม 2567, และเงื่อนไขในการซื้อขายที่ดินหลังจากการเปลี่ยนเป็นโฉนด โดยต้องรอถึงระยะเวลา 5 ปี และมีเงื่อนไขในการกู้ยืมหรือขายที่ดินกับธนาคารที่ดิน และมุ่งเน้นการปรับปรุงกฎหมายและอำนวยความสะดวกในกระบวนการ, และวางแผนที่จะแจกโฉนดฉบับแรกในวันที่ 15 มกราคม 2567 ให้กับเกษตรกรทั่วประเทศ และผู้ที่มีสิทธิได้รับการจัดที่ดิน ส.ป.ก. ต้องเป็นเกษตรกรที่ถือครอง ส.ป.ก.4-01, มีคุณสมบัติทั่วไป, และปฏิบัติตามระเบียบของ ส.ป.ก. นั่นเอง

อ้างอิง https://vinemanfence.com/farmer-check-right-alro-to-title-deed/