• Welcome to รอบรั้วมหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง.
 

Predictive Maintenance มีประโยชน์สำหรับงานซ่อมบำรุงอย่างไร

เริ่มโดย @Foretoday, ธ.ค 17, 2024, 11:50 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

@Foretoday


ระบบจัดการงานซ่อมบำรุงแบบดั้งเดิม มีลักษณะเป็นอย่างไร
   ระบบการจัดการงานซ่อมบำรุงแบบดั้งเดิม (Traditional Maintenance) เป็นกระบวนการที่ใช้การตรวจสอบและซ่อมบำรุงเครื่องจักรตามระยะเวลา หรือเมื่อมีอาการเสื่อมสภาพเกิดขึ้น เช่น การซ่อมแซมเมื่อเครื่องจักรหยุดทำงานหรือเกิดปัญหาที่ทำให้ประสิทธิภาพลดลง กระบวนการทำงานแบบนี้มักจะทำให้เกิดความสูญเสียในการผลิต เนื่องจากเครื่องจักรอาจหยุดทำงานโดยไม่ทันตั้งตัว ซึ่งจะทำให้กระทบต่อความสามารถในการผลิตและเพิ่มค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมที่ไม่ได้คาดคิด แน่นอนว่าระบบจัดการงานซ่อมบำรุงแบบดั้งเดิมได้รับความนิยมน้อยลงอย่างมาก เนื่องจากปัจจุบันธุรกิจและอุตสาหกรรมต่าง ๆ ต้องการที่จะปรับปรุงและพัฒนาระบบต่าง ๆ เพื่อให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการลดต้นทุนที่เกิดจากเครื่องจักรหยุดชะงัก ความล่าช้าในการประสานงานสำหรับการซ่อมแซม การขาดอะไหล่หรือเครื่องมือสำหรับซ่อมแซม และการขาดการวางแผนรับมือเมื่อเครื่องจักรเกิดปัญหา จนทำให้เกิดวิธีการบำรุงรักษาเครื่องจักรรูปแบบใหม่ ที่สามารถตรวจสอบและวางแผนเตรียมตัวในการรับมือเมื่อเครื่องจักรเกิดปัญหาได้อย่าง การบำรุงรักษาเชิงป้องกันหรือ Predictive Maintenance (PM) ที่จะทำการตรวจเช็กและเปลี่ยนอะไหล่เมื่อครบตามเวลาที่กำหนด รวมไปถึงการบำรุงรักษาเชิงพยากรณ์หรือ Predictive Maintenance คือ วิธีการที่มีการนำข้อมูลจากในอดีตมาพยากรณ์หาความผิดปกติของเครื่องจักร ถือเป็นวิธีการที่สามารถช่วยลดการหยุดชะงักและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของเครื่องจักรได้


ระบบจัดการงานซ่อมบำรุงแบบใหม่ และการทำ Preventive Maintenance
   การจัดการงานซ่อมบำรุงในปัจจุบันได้พัฒนาไปสู่ระบบที่มีความทันสมัยและมุ่งเน้นการป้องกันมากขึ้น การทำ Preventive Maintenance (PM) หรือการบำรุงรักษาเชิงป้องกันคือการซ่อมบำรุงเครื่องจักรตามระยะเวลาหรือการใช้งาน โดยที่ไม่มีการรอให้เกิดความเสียหายก่อน เช่น การเปลี่ยนอะไหล่ การทำความสะอาด หรือการปรับตั้งเครื่องจักรเพื่อให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด การบำรุงรักษาเชิงป้องกันช่วยลดโอกาสการเกิดความเสียหายที่ไม่คาดคิด และยังสามารถยืดอายุการใช้งานของเครื่องจักรได้ นอกจากนี้ยังช่วยให้ผู้บริหารการผลิตสามารถวางแผนล่วงหน้าได้ว่าจะต้องมีการหยุดเครื่องจักรเพื่อทำการซ่อมบำรุงเมื่อใด ทำให้การดำเนินงานของธุรกิจสามารถคาดการณ์ได้ง่ายขึ้นและลดค่าใช้จ่ายจากการซ่อมแซมฉุกเฉิน แต่ในขณะเดียวกันการทำ Preventive Maintenance อาจมีข้อจำกัดหรือข้อเสียในบางกรณี เช่น เครื่องจักรที่มีการใช้งานหนักอาจต้องการการดูแลมากขึ้นในบางช่วงเวลา หรือแม้กระทั่งบางครั้งการเปลี่ยนอะไหล่โดยไม่จำเป็นก็อาจส่งผลให้เกิดการสูญเสียทรัพยากรโดยไม่จำเป็น การทำ Predictive Maintenance จึงกลายมาเป็นตัวเลือกที่ช่วยน่าสนใจ และช่วยเพิ่มความแม่นยำในการบำรุงรักษาเครื่องจักรให้กับธุรกิจได้


การทำ Predictive Maintenance สร้างประโยชน์ต่องานซ่อมบำรุงอย่างไร
   Predictive Maintenance คือ การใช้เทคโนโลยีอย่าง AI มาช่วยในการทำนายและตรวจสอบสภาพของเครื่องจักรจากข้อมูลที่มีในอดีต เพื่อหาความเสี่ยงที่จะเกิดความเสียหาย โดยการประยุกต์ใช้ข้อมูลจากเซนเซอร์ต่าง ๆ เช่น อุณหภูมิ การสั่นสะเทือน และแรงดัน เพื่อประเมินสภาพของเครื่องจักรในเวลาจริง การใช้เทคโนโลยีนี้สามารถส่งแจ้งเตือนไปยังทีมงานทำการซ่อมบำรุง โดยไม่ต้องรอให้เครื่องจักรเสียหายก่อนถึงจะทำการซ่อมแซม แต่สามารถคาดการณ์ วางแผน และเตรียมอุปกรณ์สำหรับการซ่อมบำรุงได้ล่วงหน้า ซึ่งวิธีการบำรุงรักษาเชิงพยากรณ์หรือ Predictive Maintenance สร้างประโยชน์ต่อธุรกิจในการซ่อมบำรุงมากมาย ไม่ว่าจะเป็น
  • ลดการหยุดชะงักของเครื่องจักร
    การใช้ Predictive Maintenance ช่วยลดโอกาสในการหยุดทำงานของเครื่องจักรที่โดยไม่คาดคิด ซึ่งเป็นสิ่งที่ส่งผลกระทบต่อกระบวนการผลิตและทำให้ธุรกิจต้องเสียเวลา รวมไปถึงค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมเครื่องจักรที่เกิดปัญหาอย่างรุนแรง เมื่อเครื่องจักรถูกตรวจสอบและวิเคราะห์สภาพโดยระบบที่ทันสมัย ธุรกิจจะสามารถตัดสินใจซ่อมแซมหรือเปลี่ยนอะไหล่ในช่วงเวลาที่เหมาะสมโดยที่ไม่ต้องหยุดงานโดยไม่จำเป็น
  • ประหยัดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม
    การทำ Predictive Maintenance สามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมเครื่องจักรได้ เนื่องจากสามารถทำนายและซ่อมแซมเครื่องจักรก่อนที่ปัญหาจะลุกลามกลายเป็นปัญหาที่ร้ายแรง ซึ่งต้องใช้ค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมที่สูง นอกจากนี้ยังลดค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนอะไหล่โดยไม่จำเป็นจากวิธีการ Preventive Maintenance
  • เพิ่มอายุการใช้งานของเครื่องจักร
    การบำรุงรักษาเครื่องจักรในเวลาที่เหมาะสมด้วย Predictive Maintenance จะช่วยเพิ่มอายุการใช้งานของเครื่องจักรได้ โดยที่ไม่ต้องซ่อมแซมเครื่องจักรจนเกิดความเสียหายหนัก ซึ่งเป็นการลดต้นทุนในการซื้อเครื่องจักรใหม่
  • การวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อปรับปรุงการทำงาน
    การทำ Predictive Maintenance ช่วยให้ธุรกิจสามารถเก็บข้อมูลต่าง ๆ เช่น การสั่นสะเทือน อุณหภูมิ หรือการใช้พลังงานของเครื่องจักรเพื่อนำมาวิเคราะห์และปรับปรุงกระบวนการซ่อมบำรุงในอนาคต ช่วยให้การตัดสินใจในการปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องจักรเป็นไปอย่างแม่นยำ

สรุปความสำคัญและการเลือกใช้ Predictive Maintenance
   Predictive Maintenance คือ กระบวนการที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถตรวจสอบและซ่อมแซมเครื่องจักรได้ล่วงหน้า โดยไม่ต้องรอให้เครื่องจักรเสียหาย อีกทั้งการนำตัวอย่างแผน PM เครื่องจักร และการวิเคราะห์ข้อมูลจากเซนเซอร์ต่าง ๆ มาใช้ร่วมกันยังช่วยให้สามารถคาดการณ์ความเสียหายและวางแผนการบำรุงรักษาได้อย่างแม่นยำ การทำ Predictive Maintenance ถือเป็นสิ่งสำคัญในการจัดการงานซ่อมบำรุงให้มีประสิทธิภาพและลดต้นทุนในการดำเนินงาน ถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว เพราะไม่เพียงแต่ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมเท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและยืดอายุการใช้งานของเครื่องจักรอย่างยั่งยืน ที่ ZYCODA มีการพัฒนาระบบงานซ่อมบำรุงด้วยการนำ AI มาช่วยวิเคราะห์ร่วมกับการบำรุงรักษาเชิงพยากรณ์หรือ Predictive Maintenance เพื่อช่วยให้ธุรกิจสามารถวางแผนและดูแลการใช้งานเครื่องจักรได้อย่างราบรื่น ไร้อุปสรรค